เสียวหมี่ เปิดตัว Xiaomi 13T Pro และ Xiaomi 13T ซึ่งทั้งสองรุ่นจะได้แพตช์รักษาความปลอดภัยยาว 5 ปี และการันตีการอัปเดต Android เวอร์ชันใหม่ถึง 4 เวอร์ชัน
เสียวหมี่ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชื่อดังจากประเทศจีน ประกาศเปิดตัว Xiaomi 13T และ Xiaomi 13T Pro โดยสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เน้นทำตลาดในยุโรปและเอเชีย ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย
Xiaomi 13T และ Xiaomi 13T Pro มีจุดเด่นสำคัญอยู่ตรงที่การการันตีอัปเดตระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชันใหม่ยาวนานถึง 4 ปี และจะมีแพตช์รักษาความปลอดภัยให้อีก 5 ปี
Xiaomi 13T และ Xiaomi 13T Pro มีขนาดหน้าจอ 6.67 นิ้ว รองรับอัตรารีเฟรชเรต 144Hz มีค่าความสว่างสูงสุด 2,600 nits ความละเอียด 2712 x 1220 พิกเซล กันน้ำกันฝุ่นตามค่ามาตรฐาน IP68
Xiaomi 13T และ Xiaomi 13T Pro มาพร้อมกับระบบกล้องที่ทำงานร่วมกับไลก้า (Leica) บริษัทผู้ผลิตกล้องและเลนส์ชื่อดังจากเยอรมนี โดยที่ตัวกล้องหลักมีความละเอียด 50 ล้านพิกเซล จับคู่กับกล้องเทเลโฟโต 50 ล้านพิกเซล กล้องอัลตราไวด์ 12 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล
ในด้านความร่วมมือกับไลก้า ทำให้ Xiaomi 13T Series มีสไตล์การถ่ายภาพ Leica แบบดั้งเดิมสองแบบ นั่นคือ Leica Authentic Look และ Leica Vibrant Look ซึ่งจะส่งมอบภาพที่มีสีสันอย่างเป็นธรรมชาติ มีความคมชัดของแสงและเงา และฟิลเตอร์ 6 แบบ รวมถึงลายน้ำจากไลก้า
นอกจากนี้ Xiaomi 13T Series ยังมีฟังก์ชันสไตล์การถ่ายภาพแบบกำหนดเองภายใต้โหมด Pro ที่ใช้ครั้งแรกใน Xiaomi 13 Ultra ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับโทนสี (Tone), การไล่สี (Tonality) และพื้นผิว (Texture) ได้ในขั้นตอนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า โดยยังคงรักษารายละเอียดและสีสำหรับการประมวลผลภายหลังได้
ในรุ่น Xiaomi 13T Pro ใช้ชิป MediaTek Dimensity 9200 Plus แต่รุ่น Xiaomi 13T จะใช้ชิป MediaTek Dimensity 8200-Ultra ขนาดของแบตเตอรี่เท่ากันที่ 5,000 mAh อย่างไรก็ดี ในรุ่น 13T Pro จะรองรับการชาร์จไว 120 วัตต์ ซึ่งตัวเลขในห้องแล็บของเสียวหมี่อ้างว่าชาร์จแบตเตอรี่จาก 0 เปอร์เซ็นต์ จนเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ได้ใน 19 นาที
Xiaomi 13T Pro และ Xiaomi 13T มีให้เลือกด้วยกัน 3 สี ได้แก่ สีฟ้า Alpine Blue, สีเขียว Meadow Green และสีดำ.
