หนุ่มท้อใจโพสต์ตามหาคู่นกแก้วแสนรู้ราคาหลักแสน หลังโดนคนร้ายขโมย เผยรักเหมือนลูก พร้อมกับเล่าความเชื่อคนโบราณ เรียกชื่อนกใส่หม้อนึ่งข้าวครั้งเดียวรับข่าวดี
วันที่ 4 กันยายน 2566 มีรายงานว่า จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Sasithorn Miew โพสต์คลิปและรูปภาพนกแก้วมาคอว์ ลงในเพจ อุดร มีด่าน มีข่าว มีหมอลำ งานบุญ มีเหตุการณ์ต่างๆบอกด้วย เพื่อขอความช่วยเหลือ พร้อมกับระบุข้อความว่า มีคนงัดบ้าน สิ่งที่เอาไปคือ เด็กๆ 2 ตัว เหตุเกิด 1/9/66 บ้านน้องอยู่แถวหนองใส นกแก้วบลูโกล์ สีฟ้า นกกระตั้ว สีขาว หัวด้านในสีเหลือง นกแก้วขวัญใจเด็กๆ นกออกงาน เด็กๆ อุดรฯ รู้จักน้อง (น้องมีห่วงขาทั้ง 2 ตัว) คนร้ายอาจยังกบดานในอุดรฯ หากใครได้ยินเสียงแปลกๆ แถวบ้าน รบกวนตรวจสอบดูให้หน่อยนะคะ น้องไม่คุ้นที่แปลก จะร้องเสียงดัง หนวกหู ปล. แจ้งความแล้วค่ะ แต่รบกวนพี่ๆ เป็นหูเป็นตา ช่วยแจ้งเบาะแสอีกทางนึงค่ะ ติดต่อ คุณฉัตร 06-2530-3788 Chut Himmaphan House Garden
ต่อมาเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 3 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ นายฉัตรเพชร บัวระพันธ์ อายุ 36 ปี เจ้าของนกแก้ว และเจ้าของเพจ Himmaphan House Garden ที่บ้านเลขที่ 89/8 ม.17 บ.หนองใส ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีรั้วรอบขอบชิด บริเวณด้านหน้าบ้านมีการจัดสวนปรับแต่งต้นไม้ให้เหมือนกับธรรมชาติ สำหรับไว้เป็นที่ฝึกสอนนกแก้วให้คุ้นเคยกับคนและสถานที่ ก่อนจะนำไปขายและไปโชว์ตามงานเทศกาลต่างๆ ในพื้นที่ จ.อุดรธานี และพื้นที่ใกล้เคียง ให้กับคนที่ชื่นชอบเลี้ยงนกแก้วนำไปเลี้ยงดูที่บ้าน โดยมีนักแก้วหลากหลายสายพันธุ์ ที่กำลังอยู่ระหว่างการฝึกสอน อยู่ในกรงข้างบ้านจำนวนหนึ่ง

นายฉัตรเพชร บัวระพันธ์ เล่าด้วยสีหน้าเศร้าน้ำตาคลอว่า นกแก้วแสนรู้ของตนที่ถูกคนร้ายขโมยไปนั้น ชื่อน้องแจ๊สซี่ สีฟ้า สายพันธุมาคอว์ อายุ 12 ปี ราคา 75,000 บาท และน้องมูมู่ สีขาว สายพันธุ์กระตั้ว อายุ 4 ปี ราคา 50,000-60,000 บาท รักเขาเหมือนลูก เพราะมีความผูกพันกันมานาน เพราะเลี้ยงเขามาตั้งแต่ยังเล็ก หลังจากเจ้าโอรส สีขาว สายพันธุ์กระตั้ว ป่วยและเสียชีวิตลงตามอายุไขเมื่อปีที่ผ่านมา
นายฉัตรเพชร กล่าวอีกว่า ตนได้ไปแจ้งความช่วงค่ำวันที่ 2 กันยายน 2566 หลังนกถูกคนร้ายขโมยไปช่วงวันที่ 31 สิงหาคม ที่ผ่านมา ขณะตนออกไปทำธุระนอกบ้านในช่วงสาย เมื่อกลับมาบ้านช่วงค่ำ เห็นประตูกระจกบานเลื่อนหน้าบ้านเปิดแง้มออก เจ้าแจ๊สซี่และมูมู่ ที่ขังล็อกกุญแจไว้ในกรงหลังบ้านหายไป ก็รู้สึกตกใจมาก เพราะเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นกแก้วสายพันธุ์แอฟริกันเกรย์ 2 ตัว ที่ขังไว้ในกรงหน้าบ้าน หลังเพิ่งฝึกให้คุ้นเคยกับคนได้ไม่กี่วัน ถูกคนร้ายเข้ามาขโมยเอาไปเช่นกัน และยังไม่ได้ตั้งชื่อมันเลย
ทั้งนี้ คาดว่าเป็นคนร้ายรายเดียวกับที่ก่อเหตุ และสงสัยคนใกล้ตัวที่เป็นอดีตลูกน้องที่เฝ้าร้านของตนที่ศูนย์การค้ายูดีทาวน์ และถูกตนไล่ออกจากงานไปเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เนื่องจากยักยอกเงินที่ขายสินค้าในร้านไปจำนวน 40,000 บาท แถมยังเอารูปภาพโปรไฟล์เฟซบุ๊กของตนไปลงขายนกแก้ว และมีลูกค้ามาติดต่อขอรับสินค้าที่ร้าน เช่น นกแก้วสายพันธุ์ต่างๆ หนู กระรอก และสัตว์เลี้ยงน่ารักอื่นๆ โดยบอกว่าได้โอนเงินเข้าบัญชีของทางร้านไปแล้ว ทำให้ตนทราบพฤติกรรมของลูกน้องรายนี้ จึงไล่ออกจากงาน หลังจากเขามาอยู่ทำงานที่ร้านได้ประมาณ 6 เดือน ก็ออกลายแล้วย้อนกลับมาลักนกแก้วไป 2 ครั้ง รวม 4 ตัว มูลค่าไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาท”

นายฉัตรเพชร เจ้าของนกแก้ว เล่าต่อว่า และที่มั่นใจว่าเป็นฝีมือของคนใกล้ตัว คืออดีตลูกน้อง (ผู้ชาย) ชาว อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ที่เรารับมาทำงาน เพราะสงสารที่เขาไม่มีงานทำ และเข้ามาก่อเหตุทั้ง 2 ครั้ง โดยไม่มีร่องรอยการงัดแงะและรื้อค้น ทรัพย์สินอย่างอื่นก็ยังอยู่ครบ จึงมั่นใจว่าเป็นฝีมือลูกน้องเก่า เพราะเขาเอากุญแจบ้านและกุญแจล็อกกรงนกในบ้านไปปั๊ม หลังจากคู่นกแก้วตัวโปรดหายไป ตนรู้สึกกินไม่ได้นอนไม่หลับ ตระเวนขับรถตามหาตามสถานที่ต่างๆ จนมืดค่ำ พร้อมกับให้เพื่อนโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ให้สายสืบโซเชียลช่วยตามหาอีกทาง ทุกคืนกลับมานอนน้ำตาไหล เพราะคิดถึงมันมาก จนท้อแท้ใจ หลังติดตามหาตัวนกแก้วมา 2 วัน 3 คืนแล้ว
กระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 19.30 น. ตนได้เอาหม้อหุงข้าวอเนกประสงค์ ที่สามารถนึ่งข้าวเหนียวและหุงข้าวเจ้าได้ นำมาร้องเรียกชื่อนกแก้วทั้งสองตัว ตามความเชื่อของคนอีสาน เพื่อให้ได้เบาะแสในการติดตามตัวนกและคนร้าย ทำให้ตนขนลุกช่วงกลางดึก เนื่องจากเวลาประมาณ 01.00 น. วันนี้ มีนักสืบโซเชียลและกลุ่มคนที่รักนกได้แจ้งเบาะแสว่า เจ้าแจ๊สซี่ นกแก้วมาคอว์ และเจ้ามูมู่ นกแก้วกระตั้ว ของตน ถูกขายให้ร้านจำหน่ายสัตว์เลี้ยงมีชื่อแห่งหนึ่งที่ กทม. ซึ่งจะได้ประสานไปทางร้าน เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นนกของตนที่ถูกขโมยไปหรือไม่ หากใช่ก็จะได้ประสานทางตำรวจชุดสืบสวน ให้ช่วยติดตามกลับคืนมา และฝากตำรวจช่วยติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ด้วย ส่วนคู่นกแก้วสายพันธุ์แอฟริกันเกรย์ ยังไร้เบาะแส นอกเสียจากตำรวจติดตามจับคนร้ายรายนี้ได้”

นายฉัตรเพชร กล่าวอีกว่า ฝากถึงคนร้ายว่า ถ้ารู้สึกผิดในสิ่งที่ตนทำลงไปให้เข้ามามอบตัว เพราะหลักฐานมัดตัวทั้งหมดแล้ว เพราะที่ข้อเท้ามีรหัสห่วง และฝังไมโครชิปไว้ในตัวนกด้วย พร้อมกับมีการลงทะเบียนในการครอบครองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย คนร้ายอาจจะไม่รู้ในเรื่องนี้ จึงลงมือก่อเหตุ และขอฝากเตือนภัยสังคมคนใกล้ตัวว่า อย่าไว้ใจคน เพราะสังคมสมัยนี้รู้หน้าไม่รู้ใจ และอาจจะโดนเหมือนกับตน เพราะทุกคนก็ต้องการเงินมาดำรงชีพ แต่ต้องทำงานในอาชีพที่สุจริตจะดีกว่า และให้เป็นหูเป็นตาช่วยดูแลสังคม ส่วนเรื่องลูกน้องที่เคยขู่อาฆาตตนไว้ ตนก็ไม่ติดใจ เพียงแต่ต้องการได้นกของตนกลับคืน ส่วนเรื่องคดีก็ปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมายบ้านเมือง.