พิพากษาประหารชีวิต แม่แท้ๆ-พ่อเลี้ยง ทำร้าย น้องพีพี ดับ-น้องเจ้าขา
ศาลจังหวัดนนทบุรี ตัดสินประหารชีวิต แม่แท้ๆ-พ่อเลี้ยง หลังจากก่อเหตุร่วมกันทำร้าย น้องพีพี-น้องเจ้าขา จนเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสแล้ว
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 ส.ค.2566 ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ผู้พิพากษาศาลจังหวัดนนทบุรี ได้นัดฟังคำตัดสินในการพิจารณาคดีที่ น้องพีพี เด็กชายวัย 2 ขวบ ถูกแม่แท้ๆกับพ่อเลี้ยงร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ส่วน น้องเจ้าขา เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ถูกทำร้ายร่างกายอาการสาหัส หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางบัวทอง จับกุม น.ส.ณัธรวิชณ์ (ขอสงวนนามสกุล) ผู้เป็นแม่ และ นายทินกร (ขอสงวนนามสกุล) พ่อเลี้ยง ดำเนินคดีเมื่อวันที่ 1 ส.ค.2565
โดยวันนี้ นายณัฐพล (ขอสงวนนามสกุล) พ่อของน้องพีพี และน้องเจ้าขา ได้เดินทางมายังศาลจังหวัดนนทบุรี พร้อมกับทนายความส่วนตัวคือ นายปิยณัฐ สุกยัง เพื่อร่วมฟังคำตัดสินของศาลจังหวัดนนทบุรี
นายณัฐพล กล่าวว่า ตนเดินทางมาศาลจังหวัดนนทบุรีเพื่อรับฟังคำตัดสินในคดีที่น้องพีพีถูกแม่แท้ๆ ร่วมกับพ่อเลี้ยงทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต และลูกสาวอีกคนคือ น้องเจ้าขา ได้รับบาดเจ็บสาหัส ตนอยากให้ศาลตัดสินลงโทษบุคคลทั้งสองคนให้หนักที่สุดด้วยการลงโทษประหารชีวิต เพราะหากตัดสินจำคุกเพียง 10 ปี 20 ปี เดี๋ยวก็พ้นโทษออกมา
นายณัฐพล กล่าวต่อว่า คนที่เคยทำร้ายลูกของตัวเองได้ขนาดนี้ หากพ้นโทษออกมาจะเป็นภัยกับสังคมอีกต่อไปหรือไม่ เพราะเป็บุคคลที่มีจิตใจโหดเหี้ยม ส่วนอาการของน้องเจ้าขาในตอนนี้ ปัจจุบัน สามารถตอบสนองเรียกปะป๋ากับย่าได้แล้ว ทางบ้านได้พยายามช่วยเหลือทำกายภาพบำบัดดูแล ให้แขนขาขยับ ซึ่งยังจำเป็นที่จะต้องมีคนคอยดูแลตลอดเวลา
นายณัฐพล กล่าวอีกว่า ส่วนทางย่าที่ไม่ได้เดินทางมาฟังคำตัดสินของศาลในวันนี้ เนื่องจากต้องอยู่บ้านคอยดูแลน้องเจ้าขา สิ่งที่ตนกังวลใจตอนนี้คือสภาพอากาศที่แค่อากาศเปลี่ยนน้องเจ้าขาก็จะป่วยเป็นไข้แล้ว ทุกวันนี้ต้องเดินทางไปหาหมอสายตาและหมอที่ดูแลเพื่อรักษาอาการอย่างต่อเนื่อง
ด้าน ทนายความ กล่าวว่า แม้จำเลยทั้ง 2 รายจะยอมรับผิดและกลับตัวกลับใจให้การรับสารภาพในชั้นศาลแล้วก็ตาม แต่ตนเห็นว่าเป็นการจำนนต่อหลักฐานที่ได้ผลมาจากแพทย์นิติวิทยาศาสตร์มากกว่า ดังนั้นตนมองว่าควรจะดำเนินคดีนี้ให้ถึงที่สุด อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลที่จะตัดสินคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. ศาลจังหวัดนนทบุรีได้พิพากษาตัดสินให้ประหารชีวิต น.ส.ณัธรวิชณ์ กับ นายทินกร 2 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว แต่เนื่องจากจำเลยทั้งสองคนกลับใจให้การรับสารภาพซึ่งเป็นประโยชน์ต่อคดีในชั้นศาล จึงพิจารณาลดโทษให้เหลือโทษจำคุกตลอดชีวิตทั้ง 2 คน