นศ.-อาจารย์ ทั่วประเทศ ฉีดวัคซีนแล้วกว่าล้านโดส เตรียมเปิดเรียนแบบ On-Site
นศ.-อาจารย์ ทั่วประเทศ ฉีดวัคซีนแล้วกว่าล้านโดส เตรียมเปิดเรียนแบบ On-Site
อว.เผยฉีดวัคซีนให้อาจารย์ บุคลากร นิสิตนักศึกษาทั่วประเทศ แล้วกว่า 1 ล้านโดส 1 พ.ย.ให้มหาวิทยาลัยทั่วประเทศทยอยเปิดเรียนในห้องเรียน On-site
ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ อว.พร้อมให้มหาวิทยาลัยทั่วประเทศทยอยเปิดการเรียนการสอนแบบ On-site หรือเรียนในห้องเรียนปกติได้แล้ว สำหรับนักศึกษาระดับอุดมศึกษา โดยมีมาตรการป้องกันอย่างรัดกุม หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มคลี่คลายขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบัน และรัฐบาลประกาศนโยบายเปิดประเทศ
โดยขณะนี้ อว. ระดมฉีดวัคซีนให้กับอาจารย์ บุคลากร และนักศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาในสังกัดมากกว่า 1 ล้านโดสแล้ว โดยเริ่มฉีดมาตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.64 กว่า 4 เดือนแล้ว โดยในวันที่ 15 ต.ค.64 นี้ ฉีดรวมกัน 1,000,766 โดสแล้ว แบ่งเป็นฉีดใน กทม.และปริมณฑล จำนวน 763,519 โดส และฉีดในต่างจังหวัด จำนวน 237,247 โดส
ผ่านศูนย์ฉีดวัคซีนในสถาบันอุดมศึกษากระจายอยู่ทั่วประเทศ ทั้งใน กทม.และปริมณฑล จำนวน 11 แห่ง และต่างจังหวัด 12 แห่ง ได้แก่ ภาคเหนือ 3 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 แห่ง ภาคกลาง 1 แห่ง ภาคตะวันออก 1 แห่ง และภาคใต้ 3 แห่ง รวมทั้ง อว. สนับสนุนบุคลากรให้บริการวัคซีนตามจุดฉีดของกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานอื่นดีกกว่า 100 แห่งด้วย
ปลัด อว. กล่าวต่อว่า หน่วยฉีดวัคซีนของ อว.ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 482,655 คน แบ่งเป็นบุคลากรของสถาบันอุดมศึกษา 113,342 คน นักศึกษา 168,930 คน และประชาชนทั่วไป 200,383 คน และฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 280,864 คน แบ่งเป็นบุคลากรของสถาบันอุดมศึกษา 59,654 คน นักศึกษา 104,004 คน และประชาชนทั่วไป 117,206 คน
ส่วนหน่วยวัคซีนในต่างจังหวัด ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 133,847 คน แบ่งเป็นบุคลากรของสถาบันอุดมศึกษา 83,685 คน นักศึกษา 50,162 คน และรับวัคซีน เข็มที่ 2 จำนวน 103,400 คน แบ่งเป็นบุคลากรของสถาบันอุดมศึกษา 54,162 คน และนักศึกษา 49,238 คน ทั้งนี้นิสิตนักศึกษาทั่วประเทศยังได้รับวัคซีนผ่านทางช่องทางต่างๆ ด้วย
“การให้บริการของแต่ละหน่วยฉีดของ อว.มีจิตอาสาทั้งที่เป็นข้าราชการบำนาญ อาจารย์ เจ้าหน้าที่ นิสิตนักศึกษาจากทุกคณะ และบุคลากรจากหน่วยงานอื่นๆ มาร่วมให้บริการ เช่น ศูนย์บริการฉีดวัคซีน KU สู้ COVID-19 ณ อาคารจักรพันธ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน โดยการสนับสนุนของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งเปิดให้บริการมาตั้งแต่เดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ให้บริการฉีดแก่บุคลากร นิสิต เจ้าหน้าที่ และประชาชนในบริเวณชุมชนแล้วมากกว่า 100,000 คน หรือศูนย์ฉีดที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ก็ฉีดวัคซีนไปแล้วมากกว่า 50,000 คน เป็นต้น
โดยจากการสอบถามผู้มารับบริการวัคซีนในหน่วยบริการของ อว. ต่างมีความพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าในเรื่องของสถานที่ที่สะดวกสบาย ไม่แออัด ระบบการลงทะเบียนที่รวดเร็ว การลดขั้นตอนต่างๆ การให้บริการของหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ มีความคล่องตัวเป็นอย่างดี” ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ กล่าว
การให้บริการฉีดวัคซีนดังกล่าว เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและบรรลุผล ซึ่งผลการฉีดวัคซีนของ อว. อย่างต่อเนื่อง จนถึงวันนี้เกินกว่า 1 ล้านโดส ช่วยสร้างความมั่นใจในการให้สถาบันอุดมศึกษา ซึ่งอาจารย์และบุคลากรส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนเกือบครบ 100% แล้ว และล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรีและที่ประชุม ศบค.มอบให้กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวง อว. และสาธารณสุข ดำเนินการตามแผนให้วัคซีนและสนับสนุนวัคซีนสำหรับนักเรียนและนิสิตนักศึกษาทั่วประเทศ ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นในการควบคุมและป้องกันการติดเชื้อ
โดยทาง อว. ประเมินสถานการณ์แล้ว พร้อมจะให้มหาวิทยาลัยทยอยเปิดการเรียนการสอนแบบ On-site ตามความพร้อมของแต่ละแห่ง ในวันที่ 1 พ.ย.64 นี้ ตามนโยบายของรัฐบาลที่ประกาศเปิดประเทศในเดือน พ.ย. ซึ่ง อว. และที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ทปอ.มหาวิทยาลัยราชภัฏ ทปอ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล และสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ร่วมกันกำหนดมาตรการที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สถาบันอุดมศึกษาดำเนินการเปิดเรียนอย่างปลอดภัยและให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิดในพื้นที่ต่อไป
“ขอขอบคุณและชื่นชมบุคลากร จิตอาสา ของหน่วยฉีดทั้งหมด ที่ได้เสียสละเวลาในการร่วมกันให้บริการฉีดวัคซีนที่ผ่านมา และจะปฏิบัติงานต่อไปจนเสร็จสิ้นภารกิจ ซึ่ง อว. ได้รับการสนับสนุนจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในการจัดสรรวัคซีนสำหรับนิสิตนักศึกษาแต่ละสถาบันในส่วนภูมิภาค โดยร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ซึ่งจะทำให้การฉีดวัคซีนเป็นไปตามแผน และ อว. พร้อมจะเริ่มเปิดการเรียนการสอนอย่างปลอดภัยตามนโยบายของรัฐบาล” ปลัด อว. สรุป