ตร.คุมตัวไอ้โหดทำแผน สุดท้ายยุติกลางคัน ชาวบ้านนับร้อยเตรียมรุม
ตร.คุมตัวไอ้โหดทำแผน สุดท้ายยุติกลางคัน ชาวบ้านนับร้อยเตรียมรุม
ตร.คุมตัว ไอ้โหดทำแผน สุดท้ายต้องยุติ หลังจากถูกชาวบ้านนับร้อย ญาติและสามีผู้เสียชีวิตสุดเคียดแค้นกล่าวทั้งน้ำตาต้องประหารชีวิตเท่านั้น
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ก.ย.64 พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ รองผบช.ภ.2 รรท.ผบก.ภ.จว.ระยอง ได้เดินทางมา สภ.หนองกรับ ระยอง เพื่อบัญชาการทำแผนประกอบรับคำสารภาพ ของ นายอุดร เกณฑ์มา อายุ 50 ปี เป็นผู้ต้องหาฆาตกรรม น.ส.หยดน้ำ สิงห์ใจ อายุ 23 ปี สาวโรงงาน กล่าวว่า เบื้องต้นแจ้ง 3 ข้อหาคือ 1. ฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่นของตน หรือ เพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ 2. ซ่อนเร้นย้าย หรือ ทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย 3. ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หรือ รับของโจรที่ได้จากการกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์
สอบสวนผู้ต้องหา ให้การแล้วว่า ก่อนเกิดเหตุตนมีอาการหลอนยาบ้า ที่เพิ่งเสพมา 3 เม็ด แล้วมาดื่มสุราต่อ ที่ร้านลาบข้างจุดเกิดเหตุจนเมา แล้วได้นำเสื่อมาปูนอนตรงจุดเกิดเหตุ ต่อมาผู้เสียขีวิตเลิกงานมาพอดี จึงเกิดสติหลอนคิดว่าจะถูกทำร้าย จึงได้ใช้มีดแทงเหยื่อเพื่อป้องกันตัว หลังจากนั้นได้ถอดเสื้อออกพบว่าเป็นผู้หญิง และได้ใช้เสื่อห่ออำพรางศพไว้
ต่อมาคนร้ายได้ขี่จยย.ของผู้เสียชีวิต เพื่อกลับมาเปลี่ยนเสืัอผ้าภายในบ้านร้าง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กม. แล้วจึงขี่จยย.หลบหนีไป จนกระทั่งถูกจับ ปฏิเสธไม่คิดจะข่มขืน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งกองร้อยควบคุมตัว นายอุดร เกณฑ์มา ผู้ต้องหาออกจากห้องขังเพื่อนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดเกิดเหตุ นำตัวขึ้นรถกระบะสี่ประตูสีขาว พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มกันอย่างหนาแน่น
จุดแรกเป็นบ้านร้างที่ผู้ต้องหากลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนคิดจะหลบหนี ใช้เวลาทำแผนประกอบการ ประมาณ 10 นาที จึงได้ควบคุมตัว ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ต่อไปที่จุดเกิดเหตุ บริเวณห้องแถวซึ่งเป็นร้านขายน้ำปั่น ปรากฎว่ามีชาวบ้านประมาณ 200 คน มายืนรอแน่นด้านหน้า และเกาะกลางถนน ชาวบ้านได้ส่งเสียงด่าสาปแช่งคนร้าย ให้ตายตกตามกัน โดยการสั่งประหารชีวิต
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งแถวคุ้มกันอย่างหนาแน่น ก่อนพาตัว ผู้ต้องหาสวมหมวกกันน็อคสีดำ เสื้อยืดสีขาวสวมเสื้อกันกระสุนอีกชั้น กางเกงขาสามส่วนสีดำ ลงจากรถ แล้วพาตัวไปทำแผน โดยจำลองเหตุการณ์ การฆาตกรรม ในจุดเกิดเหตุ แล้วพามายังด้านหน้า เป็นจุดที่โยนอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุขึ้นบนหลังคา จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถเพื่อไปทำแผนในจุดต่อไป ขณะกำลังพาตัวผู้ต้องหาขึ้นรถ ปรากฎว่าได้เกิดเหตุการณ์ตะลุมบอน ทางญาติและสามีผู้เสียชีวิต ร่วมกับชาวบ้านได้บุกกันเข้าไปทำร้ายผู้ต้องหา เหตุการณ์เริ่มบานปลาย จนเกือบควบคุมไม่อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุม ต่างล้มไปหลายนาย ชุลมุนกันประมาณ 5 นาที ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสามารถนำตัวผู้ต้องหาออกจากจุดทำแผน ชาวบ้านต่างพากันบุกเข้ามา ทำร้ายผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ได้ฝ่าชาวบ้าน พาตัวผู้ต้องหาขึ้นรถอย่างทุลักทุเลได้สำเร็จ ออกจากจุดเกิดเหตุณ์ทันที พร้อมประกาศยุติการทำแผนประกอบคำสารภาพ แต่ทางสามีและญาติ ชาวบ้าน ต่างพากันตามหารถผู้ต้องหาหมายจะทำร้ายต่ออีก
น้องชายผู้เสียชีวิต ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ พยายามวิ่งตามรถผู้ต้องหาแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปพูดคุยจนใจเย็นลง ท่ามกลางเสียงตะโกนสาบแช่งผู้ต้องหาดังกระหึ่มว่า ต้องประหารชีวิตเท่านั้น
เวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหากลับมา สภ.หนองกรับ ระยอง ได้พบว่าผู้ต้องหาถูกทำร้ายตามร่างกาย แต่ไม่รุนแรง จึงนำตัวเข้าควบคุมในห้องขัง เพื่อรอการดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
และพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมผู้ต้องหา ได้รับบาดเจ็บหลายนาย โดยมีเพียงหนึ่งนายที่ได้รับบาดเจ็บจากการล้มลงจนมือเป็นแผลจากการกระแทกพื้นถนน ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ปลอดภัยดีแล้ว
ด้านสามีผู้เสียชีวิต นายพีรพงษ์ ก๋าจุมปู อายุ 24 ปี และบิดามารดาของผู้เสียชีวิต ได้มารอดูการทำแผน เปิดเผยว่า ไม่ยอมอโหสิกรรมอย่างแน่นอน ต้องการให้ประหารชีวิตตายตกไปตามกัน กับการกระทำสุดโหดเหี้ยม และถ้าเป็นไปได้ต้องการลงมือฆ่าด้วยตนเอง เสียใจจนไม่มีน้ำตาจะไหล เตรียมให้ภรรยาออกจากงานในอีก 3 เดือน เพื่อเปิดร้านขายอาหาร แต่มาถูกคนร้ายฆ่าเสียก่อน ต่างพากันไม่เชื่อตามที่คนร้ายให้การ และเชื่อว่าคนร้ายเตรียมการณ์มาก่อน จึงต้องการให้ลงโทษประหารชีวิตเท่านั้น จึงจะสาสมกับการกระทำอันโหดเหี้ยม พร้อมทั้งขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จับกุมตัวคนร้ายมาลงโทษได้อย่างสำเร็จ