ในหลวง-พระราชินี ทรงร่วมยิงธนู กษัตริย์จิกมีทรงแนะนำ กีฬาพื้นบ้านของภูฏาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงร่วมยิงธนู กษัตริย์จิกมีทรงแนะนำ กีฬาพื้นบ้านของภูฏาน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการวันที่สาม เสด็จฯทอดพระเนตรการแสดงศิลปวัฒนธรรมของภูฏาน งานหัตถกรรมผ้าและสิ่งทอ โอกาสนี้ทรง ร่วมยิงธนูที่เป็นกีฬาประจำชาติของภูฏาน โดยมีสมเด็จพระราชาธิบดี และสมเด็จพระราชินีแห่งภูฏาน ถวายคำแนะนำ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือน ราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 25-28 เมษายน พุทธศักราช 2568 ตามคำทูลเชิญของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับคำทูลเชิญด้วยความปีติยินดียิ่ง การเสด็จพระราชดำเนินเยือนในครั้งนี้ เป็นการกระชับมิตรภาพและความร่วมมืออันใกล้ชิดระหว่างราชอาณาจักรทั้งสองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น จากการมีมรดกทางวัฒนธรรมร่วมกันในความเลื่อมใสในบวรพระพุทธศาสนาและสายสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์ทั้งสอง รวมทั้งระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ
ต่อมาเมื่อวันที่ 27 เม.ย.ซึ่งเป็นวันที่สามในการเสด็จฯเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากโรงแรมที่ประทับเพมาโกะ ทิมพู ไปยังพระราชวังลิงคานา เพื่อทอดพระเนตรการแสดงศิลปวัฒนธรรมของภูฏาน ได้แก่ การแสดงศิลปะการยิงธนู กีฬาพื้นบ้าน และงานหัตถกรรมผ้าและสิ่งทอของราชอาณาจักรภูฏาน
โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงร่วมยิงธนู อันเป็นกีฬาพื้นบ้านของราชอาณาจักรภูฏาน ถือเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตและวัฒนธรรมพื้นบ้าน โดยมีสมเด็จพระราชาธิบดี และสมเด็จพระราชินีแห่งภูฏาน ถวายคำแนะนำ
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังตลาดกลางประจำกรุงทิมพู (Kaja Throm) ทรงรับฟังการบรรยายสรุปและทอดพระเนตรนิทรรศการของโครงการอาสาสมัครเดซุง และร้านค้าจำหน่ายพืชผลทางการเกษตร โดยการเสด็จพระราชดำเนินเยือนในครั้งนี้จะเป็นการกระชับมิตรภาพและความร่วมมืออันใกล้ชิดระหว่างราชอาณาจักรทั้งสองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น จากการมีมรดกทางวัฒนธรรมร่วมกันในความเลื่อมใสในบวรพระพุทธศาสนาและสายสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์ทั้งสอง รวมทั้งระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ
สำหรับในวันจันทร์ที่ 28 เมษายน ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในการเสด็จฯเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังป้อมดุงการ์ ณ เมืองพาโร ทรงสักการะพระศากยมุนี และทอดพระเนตรกิจกรรมของราชวิทยาลัย และนิทรรศการเกี่ยวกับโครงการพัฒนาเมืองเกเลฟูให้เป็นเมืองแห่งสติปัญญาในเขตปกครองพิเศษ จากนั้นจะเสด็จพระราชดำเนินโดยเครื่องบินพระที่นั่ง กลับถึงท่าอากาศยานทหารดอนเมือง ในเวลา 19.30น.