ข่าวทั่วไป

ค้นคอนเทนเนอร์ ยึดเอกสาร สตง. มี 24 ตู้ ขนนับ 100 ลัง วิศวกรพบพิรุธตัวตึก “หม่ำ” ให้กำลังใจญาติ

ค้นคอนเทนเนอร์ ยึดเอกสาร สตง. มี 24 ตู้ ขนนับ 100 ลัง วิศวกรพบพิรุธตัวตึก “หม่ำ” ให้กำลังใจญาติ

 

ดีเอสไอร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้แทน PKW-บ.อิตาเลียนไทยฯ เปิด 24 ตู้คอนเทนเนอร์ออฟฟิศชั่วคราว บ.ไชน่าฯ เก็บเอกสารที่โยงการก่อสร้าง สตง.กว่า 100 ลัง ขนใส่ 6 ล้อไปดีเอสไอตรวจยิบหาหลักฐานเอาผิดคดีนอมินี-ฮั้วประมูล จากนี้จะเริ่มทยอยสอบวิศวกรวันละ 10 คน ขณะที่ทีมวิศวกรกรมโยธาฯพบข้อสงสัยโครงสร้างฐานรากตึก ไล่ตรวจสอบชิ้นส่วนคอนกรีตตั้งแต่ชั้นใต้ดินยันชั้น 4 รวมถึงผนังปล่องลิฟต์ ส่วน ผอ.สปภ.กทม.เผยคืบหน้ารื้อซากเคลียร์มาถึงชั้น 1 เตรียมปรับแผนรื้อโครงสร้างให้สมดุลเปิดทางให้กู้ภัยเข้าถึงชั้นใต้ดิน ด้านนายกสภาทนายความลงพื้นที่ช่วยเหลือทวงความยุติธรรมญาติผู้เสียหาย “หม่ำ จ๊กมก” นำคณะทำอาหารอีสานให้กำลังใจ

ความคืบหน้าในการรื้อถอนซากอาคารก่อสร้างสตง.หลังใหม่ถล่มเมื่อวันที่ 28 มี.ค.อันเกิดจากเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศเมียนมา รวมทั้งการสืบสวนเอาผิดผู้้เกี่ยวข้องในการจัดจ้างสร้างอาคารที่มีกรมสอบสวนคดีพิเศษและกองบัญชาการตำรวจนครบาลดำเนินการอยู่ โดยส่วนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีการออกหมายจับคดีนอมินี จับกุมผู้เกี่ยวข้องแล้ว 4 คน และนัดหมายผู้เกี่ยวข้องเปิดตู้คอนเทนเนอร์ทำเป็นออฟฟิศที่ดีเอสไออายัดไว้ 24 ตู้ เพื่อหาเอกสารที่เกี่ยวข้องในวันที่ 28 เม.ย. ส่วนการค้นหาผู้สูญหายขณะนี้ยืนยันผู้เสียชีวิตได้แล้ว 62 คน บาดเจ็บ 9 คน และยังมีผู้สูญหายอยู่ระหว่างค้นหาอีก 32 คน ทั้งนี้ การรื้อซาก สตง.คืบหน้าไปมาก เจอชั้น 5 และชั้น 6 อาคารเดิมแล้ว เร่งระดมตัดเหล็กและเจาะซากอาคารต่อเนื่องเตรียมเปิดหน้าดินเพื่อเจาะเข้าชั้นใต้ดินจากด้านนอก หลังพบพื้นที่อาคารชั้น 1-4 ถล่มอัดแน่นเชื่อว่ามีร่างผู้เสียชีวิตอยู่ใน
บริเวณดังกล่าว ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ครบ 1 ด. ความสูงซากเหลือ 1.37 ม.

ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 เม.ย. การค้นหาผู้สูญหาย จากเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่กำลังก่อสร้างใหม่พังถล่ม เขตจตุจักร กทม. ครบ 1 เดือนเต็มแล้ว นายสุริยชัย รวิวรรณ ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ เผยความคืบหน้าการค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคาร สตง.ถล่มว่า ขณะนี้ลดทอนความสูงของโครงสร้างลงมาเหลือเฉลี่ยประมาณ 1.37 เมตร หากมองโครงสร้างด้านหน้าขณะนี้มองเห็นผนังชั้นใต้ดินได้ หากวัดระดับจากด้านข้างอาคารที่เป็นระดับเดียวกับพื้นชั้น 1 จะเห็นว่าระดับความสูงของโครงสร้างด้านหน้าเทียบเท่ากับบริเวณพื้นชั้น 1 แล้ว ขณะที่โครงสร้างด้านหลังที่ยังลาดชัน แผนงานวันนี้จะเร่งนำชิ้นส่วนโครงสร้างที่พังถล่มลงมาออกตรงจุดโซน C ใกล้อาคารจอดรถ โดยการแยกปูนและเหล็กออก เพื่อปรับโครงสร้างให้สมดุลกับจุดด้านหน้า เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่เข้าถึงชั้นใต้ดินได้

ถอน “จอมมารบู” ออกจากพื้นที่
นายสุริยชัยกล่าวต่อว่า ส่วนการนำผู้ติดค้างออกจากใต้ซากอาคารเมื่อคืนวันที่ 27 เม.ย. นำร่างออกมาได้เพิ่ม 1 คน จากบริเวณโซน D และเจอชิ้นส่วนเพิ่มเติมอีก 5 เคสในกองซากอาคาร ขณะเดียวกันยังพบชิ้นส่วนอีก 1 ชิ้น ที่กองเศษปูน ปัญหาที่พบยังคงต้องปรับแผนทำงานอย่างต่อเนื่อง เช่น การเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในบางโซนที่ต้องใช้กำลังคน ปรับเครื่องจักรให้สอดคล้องระดับชั้นความสูงและพื้นที่ วันนี้จะปรับแผนถอนการใช้รถแบ็กโฮ (SK-1000) หรือจอมมารบูออกเพราะสภาพโครงสร้างขณะนี้ต่ำกว่าระดับเซ็นเซอร์ที่เครื่องจักรจะตรวจสอบได้ จะเสริมรถแบ็กโฮหัวกระแทกเข้ามาแทน เบื้องต้นกำหนดเป้าหมายจะดำเนินการให้ได้วันละ 1 เมตร หากทำได้การทำงานจะเสร็จได้เร็วขึ้น ยืนยันว่าภายในเดือนพฤษภาคมสามารถเคลียร์พื้นที่ทั้งหมดได้แล้วเสร็จ ตลอด 30 วันที่ผ่านมา ค่อนข้างพอใจกับผลการปฏิบัติ สำหรับการจะขุดไปถึงชั้นใต้ดินได้หลังจากนี้ ไม่สามารถประเมินได้เนื่องจากมีอุปสรรคในลักษณะคอนกรีตที่มีความสมบูรณ์ บางจุดมีเศษซากชิ้นส่วนแตกหัก เป็นปัญหาที่แตกต่างกัน

บางศพคืนครอบครัวได้แค่ 12 ชิ้น
รายงานข่าวจากสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทีมกู้ภัยและค้นหาได้นำร่างผู้เสียชีวิตและชิ้นส่วนอวัยวะ มาส่งให้สถาบันนิติเวชวิทยาตรวจพิสูจน์ทราบบุคคลเพื่อยืนยันการเสียชีวิต ตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค.68 จนถึงวันนี้ (28 เม.ย.68) มีทั้งสิ้น 260 รายการ ยืนยันเป็นผู้เสียชีวิตได้ 63 ราย หนึ่งในนี้ มี 1 รายที่รวบรวมชิ้นส่วนอวัยวะได้เพียง 12 ชิ้น เป็น 1 ร่าง และส่งมอบให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตนำไปบำเพ็ญกุศลแล้ว ยังเหลือชิ้นส่วนอวัยวะอีก 195 ชิ้น ที่ยังไม่สามารถรวมร่างยืนยันบุคคลเสียชีวิตอย่าง เป็นทางการได้ ทำให้ยังมียอดผู้สูญหายอยู่ 31 ราย

วิศวกรพบหลายจุดทำตึกถล่ม
อีกด้านหนึ่ง ทีมวิศวกร กรมโยธาธิการและผังเมือง นำโดยนายพิศุทธิ์ สุขุม วิศวกรใหญ่กรมโยธาธิการและผังเมือง พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.บางซื่อ เข้าตรวจสอบฐานรากโครงสร้างอาคาร สตง.ถล่ม ที่บริเวณชั้นใต้ดินที่เชื่อมต่อระหว่างอาคารจอดรถกับอาคารสำนักงานหลัก ในการตรวจสอบพบข้อสงสัยบริเวณฐานคอนกรีตอาคารหลายจุด ตั้งแต่ชั้นใต้ดินจนถึงชั้น 4 ของอาคาร รวมถึงบริเวณผนังปล่องลิฟต์ สันนิษฐานว่า อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตัวอาคารถล่มอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ทีมวิศวกรกรมโยธาธิการได้มาร์กจุดอายัดพื้นที่ เสาและผนังคอนกรีตจำนวนหนึ่งรอตรวจพิสูจน์ทางวิศวกรรมอย่างละเอียดเพื่อคำนวณหาจุดที่พังทลายจุดแรกที่ทำให้ตึกถล่มต่อไป

“หม่ำ จ๊กมก” ให้กำลังใจญาติ
ต่อมาเวลา 11.20 น. จุดบริการผู้ประสบภัย ศูนย์พักพิง กทม. นายเพชรทาย วงศ์คำเหลา หรือ “หม่ำ จ๊กมก” นายโอบะ เสียงเหน่อ นายกมูลนิธิศิลปินตลกแห่งประเทศไทย, กัน จอมพลัง และนายมนัส โนนุช ประธานสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมทำส้มตำข้าวเหนียวไก่ทอด แจกจ่ายญาติผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม พร้อมมอบเงินให้ “กัน จอมพลัง” เพื่อช่วยเหลือญาติผู้ประสบภัย เนื่องจากวันนี้ครบรอบ 1 เดือนที่เกิดเหตุ หม่ำ จ๊กมก ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจญาติผู้สูญหายในศูนย์พักพิง ก่อนเผยว่า รู้สึกสงสารและเห็นใจเห็นทุกคนเป็นเหมือนครอบครัวตน อีกทั้งยังพบว่ามีคนยโสธรบ้านเดียวกับตนด้วย มาเป็นกำลังใจให้ในวันนี้

สภาทนายฯลงพื้นที่รับร้องทุกข์
จากนั้นเวลา 13.45 น.นายวิเชียร ชุปไธสง นายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ นำทีมทนายความประชาสัมพันธ์ศูนย์ช่วยเหลือประชาชนด้านกฎหมายอย่างเป็นทางการ รับเรื่องร้องทุกข์จากญาติผู้เสียหาย โดยญาติผู้เสียหายชาวเมียนมาบางส่วนเข้ายื่นคำร้องขอความช่วยเหลือทางกฎหมายอย่างเป็นทางการด้วย

มีญาติขอความช่วยเหลือ 2 กลุ่ม
นายวิเชียรเผยว่า ที่ผ่านมามีญาติผู้เสียหายติดต่อขอคำแนะนำอย่างต่อเนื่อง บางรายนำใบมรณ บัตรและหลักฐานการแจ้งความจากสถานีตำรวจมายื่นประกอบการขอความช่วยเหลือ โดยญาติผู้เสียหายแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่พบร่างผู้เสียชีวิตและกลุ่มที่ยังไม่พบร่าง กลุ่มที่พบร่างได้รับเงินเยียวยาจากบริษัทที่เกี่ยวข้องประมาณ 50,000 บาท และรับเงินช่วยเหลือจากมูลนิธิรวมถึงเงินจากรัฐบาลอีก 100,000 บาท ญาติหลายรายเห็นว่าเงินที่ได้รับยังไม่เหมาะสมกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น ส่วนกลุ่มที่ยังไม่พบร่าง ได้เงินช่วยเหลือจากบริษัท 3,000 บาท เป็นค่าเดินทางมารอการค้นหา นอกจากนี้ มีผู้ประสบภัยบางรายที่กลับต่างจังหวัดโดยไม่ทราบว่าสภาทนายความเปิดศูนย์ช่วยเหลือ ขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบเข้ามาติดต่อเพื่อรับการช่วยเหลือตามสิทธิ์

ตัวแทน บ.รับเหมานัดเยียวยา
นายกสภาทนายความกล่าวอีกว่า ในวันพรุ่งนี้ ตัวแทนจากสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศ ไทย และตัวแทนบริษัทผู้รับเหมาจะมาเจรจาเสนอการชดใช้เยียวยาเบื้องต้นให้กับญาติผู้เสียหายและผู้บาดเจ็บที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นการจ่ายเบื้องต้นโดยไม่ผูกพันข้อกฎหมาย หมายความว่าผู้รับเงินยังมีสิทธิ์ดำเนินคดีเรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มเติมในอนาคตได้ โดยเงินเยียวยาจะมอบให้ทุกคน
ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งที่บาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนจะเท่าไหร่นั้นต้องหารือในรายละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ทำหน้าที่เป็นตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายบางส่วน ได้รับเชิญเข้าร่วมหารือเพื่อให้การคุ้มครองสิทธิและประโยชน์ผู้เสียหายอย่างเต็มที่”
หารือก่อนเปิดตู้คอนเทนเนอร์
ส่วนการค้นหาเอกสารหลักฐานประกอบสำนวน คดีที่ดีเอสไอนัดผู้เกี่ยวข้องเปิดตู้คอนเทนเนอร์ออฟฟิศชั่วคราวของ บ.ไชน่าฯ 24 ตู้นั้น เมื่อเวลา 09.00 น. วันเดียวกัน ที่กองอำนวยการร่วม สน.บางซื่อ ศูนย์ บัญชาการเหตุการณ์สำนักงานเขตจตุจักร ทีมพนักงานสอบสวนดีเอสไอประชุมร่วมกับทีมวิศวกร กรมโยธาธิการและผังเมือง พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ผู้แทนสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้แทนจากกิจการร่วมค้า PKW และผู้แทนบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด ก่อนเข้าเปิดตู้คอนเทนเนอร์อายัดไว้ภายในมีเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคาร ที่ต้องตรวจสอบเพื่อ นำไปใช้ประกอบสำนวนคดีนอมินี และคดีฮั้วประมูล

เน้นเอกสารที่ไม่มีอยู่ที่ สตง.
ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดี พิเศษ กล่าวว่า วันนี้ร่วมกันกับกรมโยธาธิการและ ผังเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบเอกสารที่อยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ ในจุดเกิดเหตุที่ยึดอายัดไว้ทั้งหมด 24 ตู้ เพื่อนำเอกสารมาประกอบสำนวน วันนี้แบ่งเจ้าหน้าที่เป็น 4 ชุดปฏิบัติการตรวจสอบ สิ่งที่อยากได้คือ เอกสารเกี่ยวกับการก่อสร้าง Shop Drawing เอกสารระหว่างผู้รับจ้างช่วง เอกสารการทำงานของวิศวกรจีน-วิศวกรไทย รายละเอียดการตรวจวัสดุ เช่น คอนกรีต เหล็ก เป็นเอกสารที่ไม่มีอยู่ที่ สตง. และหน่วยงานที่เคยเข้าตรวจค้นแล้วก่อนหน้านี้ เอกสารที่ได้มาส่วนใหญ่จะเป็นเอกสารที่ติดต่อกับราชการเป็นหลัก

มี 2 กิจการร่วมค้าร่วมสังเกต
เมื่อถามว่า มีความกังวลหรือไม่ว่าเอกสารจะอยู่ไม่ครบ เพราะก่อนหน้านี้มีชาวจีนลอบขนออกไป ร.ต.อ.สุรวุฒิกล่าวว่า ไม่กังวลเพราะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เอกสารที่เคยมีการขนออกไปยืนยันว่าได้คืนมาครบหมดแล้ว วันนี้มีตัวแทนจากบริษัท อิตาเลียนไทยฯ และกิจการร่วมค้า PKW เข้าร่วมสังเกตการณ์ตามขั้นตอน ส่วนบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 ไม่ได้ส่งผู้แทน เพราะบริษัท อิตาเลียนไทยฯ มาในนามบริษัทอยู่แล้ว ทั้งนี้ เอกสารที่ได้จะถูกนำไปใช้ทั้งหมด 2 ส่วน คือในการสืบสวนข้อเท็จจริงของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และการสืบสวนข้อเท็จจริงของกรมโยธาธิการและผังเมืองจึงทำงานร่วมกันเพื่อให้เกิดความรวดเร็ว

แบ่ง 4 ชุดตรวจค้นพุ่งเป้าตู้ที่ 19
ต่อมาเวลา 10.00 น. คณะพนักงานสอบสวนทั้งหมดพร้อมผู้แทนจาก สตง. ผู้แทนจากกิจการร่วมค้า PKW และผู้แทนบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อป เมนต์ จำกัด ได้เข้าตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ตู้ สตง. ตู้สำนักงานกิจการร่วมค้าไอทีดี- ซีอาร์อีซี หรือกิจการร่วมค้าระหว่างบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด และตู้สำนักงานกิจการร่วมค้า PKW ทั้งหมด 24 ตู้ แบ่งชุดปฏิบัติการเป็น 4 ชุด ที่แต่ละชุดจะประกอบไปด้วยตำรวจ วิศวกร กรมโยธาธิการและผังเมือง และดีเอสไอ ชุดที่ 1 และ 2 จะมีผู้แทนจากบริษัท อิตาเลียนไทยฯ นำตรวจค้น ส่วนชุดที่ 3 และ 4 จะมีผู้แทนกิจการร่วมค้า PKW นำตรวจค้น เน้นหาเอกสารการดำเนินโครงการ เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเสนอราคา โดยให้ความสำคัญกับการตรวจสอบตู้ที่ 19 เนื่องจากมีเอกสารอยู่จำนวนมาก และจะตรวจทีละตู้ หากตู้ไหนไม่ได้ใช้งานจะส่งมอบทรัพย์สินคืน ส่วนตู้ไหนที่มีหลักฐาน ก็ให้ตรวจยึดไว้

เผยได้รายละเอียดเกือบครบ
จากนั้นเวลา 13.10 น. พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกดีเอสไอ แถลงคืบหน้าการตรวจสอบค้นหาเอกสารคดีอาคารก่อสร้าง สตง.ถล่มว่า ได้แบ่งการปฏิบัติงานเป็น 4 ชุดหลัก เพื่อเปิดตรวจและรวบรวมเอกสารอย่างเป็นระบบ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสาร ร่วมกันและลงรายละเอียดในแต่ละตู้ รายละเอียด ได้เกือบครบสมบูรณ์ที่จะได้ใช้ข้อเท็จจริงร่วมกัน

แจงเอกสารที่พบจาก 4 ชุดปฏิบัติ
พ.ต.ต.วรณันกล่าวอีกว่า ชุดที่ 1 ตรวจสอบเอกสารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD และตู้ของ สตง. พบเอกสารสำคัญหลายรายการ เช่น แฟ้มการส่งมอบงานตามงวดการก่อสร้าง และรายงานความคืบหน้างานก่อสร้างรายเดือน ชุดที่ 2 พบเอกสารการตั้งเบิกเงิน ค่าวางบิลงานก่อสร้าง หลักฐานการซื้อคอนกรีต เหล็กและสัญญาเกี่ยวกับอุปกรณ์ก่อสร้างต่างๆ เช่น ลิฟต์ ชุดที่ 3 ตรวจสอบพื้นที่ของฝ่ายควบคุมงาน พบเอกสารโครงการจำนวนมาก ทั้งเอกสาร RFI (Request for Information) คอมพิวเตอร์ที่ใช้ทำงานธุรการ แฟ้มสัญญาควบคุมงาน เอกสารขออนุมัติก่อสร้างรายวัน และ “Shop Drawing” เป็นแบบก่อสร้างรายละเอียดที่สำคัญ ชุดที่ 4 เป็นพื้นที่ต่อเนื่องของฝ่ายควบคุมงาน พบเอกสาร RFI รายงานความก้าวหน้าประจำวัน (Daily Report) และรายงานการประชุมของผู้จัดการโครงการ (Project Manager Meeting Report) เจ้าหน้าที่เห็นพ้องกันว่าเอกสารที่พบมีความสำคัญต่อการพิสูจน์ข้อเท็จจริง ได้รวบรวมไว้เบื้องต้นเพื่อตรวจสอบรายละเอียดต่อที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ

ขนใส่กว่า 100 ลังเก็บดีเอสไอ
พ.ต.ต.วรณันกล่าวอีกว่า เอกสารทั้งหมดถูกบรรจุในกล่องมากกว่า 100 ลัง ลำเลียงด้วยรถหกล้อ 1 คัน ไปกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อจัดเก็บอย่างเป็นระบบและคัดแยกเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดีออกจากเอกสารทั่วไป เพื่อสอบสวนตามกระบวนการและการตรวจสอบ ในวันนี้ไม่พบความเสียหายของเอกสาร เนื่องจากมีตำรวจ สน.บางซื่อ และเจ้าหน้าที่ กทม.ดูแลพื้นที่เข้มงวด อีกทั้งได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่าเอกสารบางส่วนที่เคยมีรายงานว่าถูกนำออกไปโดยบุคคลสัญชาติจีน ขณะนี้อยู่ในการควบคุมของ สน.บางซื่อ ดีเอสไอจะขอตรวจสอบเอกสารดังกล่าวเพิ่มเติมด้วย

ทยอยสอบวิศวกรวันละ 10 คน
โฆษกดีเอสไอกล่าวด้วยว่า ในส่วนของการสอบสวนพยาน พรุ่งนี้เป็นต้นไปจะทยอยเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้อง เช่น วิศวกร มาสอบปากคำวันละ 10 คน เป็นระยะเวลา 4 วัน รวม 40 คน จะสอบสวนทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องตามพยานหลักฐานอย่างละเอียด พร้อมจัดลำดับการสอบสวนพยานรายอื่นๆต่อไป สำหรับความคืบหน้าคดีที่เกี่ยวข้องกับบริษัทจีนพัวพันกับเรื่องเงินลงทุน หุ้น และความสัมพันธ์กับต่างชาติ (นอมินี) โดยคดีใกล้จะสิ้นสุดแล้ว อยู่ระหว่างการสอบสวนว่ามีการกระทำผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการกล่าวหาใครในขณะนี้

ยอดผู้สูญหายขยับเหลือ 29 คน
เวลา 18.00 น. ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์สำนักงานเขตจตุจักร สรุปยอดความคืบหน้าภารกิจกู้ภัยคนงานที่ประสบภัย และผู้สูญหายจากอาคารสำนักงานการ ตรวจเงินแผ่นดินหลังใหม่พังถล่ม ณ เวลา 18.00 น. วันที่ 28 เม.ย.68 ว่า มีจำนวนผู้ประสบเหตุ 103 คน แยกเป็นผู้เสียชีวิตที่ได้รับการตรวจยืนยันอัตลักษณ์บุคคลเบื้องต้น 65 คน ผู้บาดเจ็บ 9 คน และยังมีผู้สูญหายอยู่ระหว่างค้นหา 29 คน

Tags
กรุงเทพตึกถล่ม จตุจักรตึกสตวสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินอาคารสำนักงาน สตงเยียวยาแผนดินไหวแผ่นดินไหว

เรื่องอื่นๆ แนะนำต้องดู

Back to top button