หญิงวัย 59 ปัดบังคับผัวกินเจจนดับ รับนำเงินไปช่วยสถานธรรมจริง แต่ให้ตามกำลัง
หญิงวัย 59 ปัดบังคับผัวกินเจจนดับ รับนำเงินไปช่วยสถานธรรมจริง แต่ให้ตามกำลัง
หญิงวัย 59 ปี ปัดคลั่งลัทธิ บังคับผัว “กินเจ” จนเสียชีวิต ชี้เพราะมีโรคประจำหลายโรค เสียใจถูกพี่สาวใส่ร้าย ยอมรับนำเงินไปช่วยสถานธรรมจริง แต่ให้ตามกำลังที่มี
จากกรณีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อบต. และมูลนิธิอาณัติพล ซารัมย์ (ลูกเติ้ง) เข้าไปเยี่ยมบ้าน นางบุญเรียน พงพนา อายุ 59 ปี บ้านไทยสามัคคี ต.ไทยสามัคคี อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ เพื่อให้ความช่วยเหลือ เนื่องจากมีคนนำภาพบ้านที่ทรุดโทรมของนางบุญเรียน ไปโพสต์เรียกร้องความช่วยเหลือ เพราะอยู่กับกระท่อมน้อยไม่มีห้องนอน ไม่มีแม้หมอนจะหนุนนอน
แต่เมื่อเดินทางไปถึงไม่พบนางบุญเรียน เจ้าของบ้าน ด้านพี่สาวนางบุญเรียน ให้ข้อมูลว่าน้องสาวได้รับเงินช่วยเหลือ จากลูกชายกับลูกสาวทุกเดือน แต่เอาเงินไปช่วยสถานธรรมแห่งหนึ่ง ภาวนากินเจตลอดชีวิต บังคับสามีกินเจด้วย สุดท้ายสามีเสียชีวิต หมอระบุขาดสารอาหารขั้นรุนแรง ซึ่งทางมูลนิธิฯ ที่เข้าช่วยเหลือ ได้แนะนำให้ต้องบำบัดจิตก่อน ดังที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 24 เมษายน 2568 นางบุญเรียน พงพนา เจ้าของบ้าน ได้ออกมาระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า สถานธรรมที่ตนไปนับถือเป็นสถานธรรมที่ต้องการให้โลกเกิดความสันติสุข สอนให้คนเป็นคนดี ไม่ได้สร้างภาพพจน์ หรือหลอกลวงอะไร พอทราบข่าวว่าพี่สาวเป็นคนพูดออกมา รู้สึกเสียใจมาก เรื่องการบังคับสามีให้กินเจก็ไม่เป็นความจริง พี่สาวใส่ร้ายป้ายสี ทั้งที่ช่วยเหลือพี่มาโดยตลอดแม้ตอนสามีตัวเองตาย พี่สาวก็พยายามให้ตนเคลียร์บ้านให้สะอาด
นางบุญเรียน เล่าด้วยว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 12 ปีที่ผ่านมา ตนเข้าไปสมัครเป็นลูกศิษย์ที่สถานธรรม จนกระทั่งศึกษาเรื่องกินเจ ตนถือว่าเป็นเรื่องดีไม่ไปเบียดเบียนชีวิตคนอื่น เราถือศีล 5 กินเจ ไม่เคยไปบังคับสามี ถือเป็นรากบุญที่ทำกันมา
ส่วนการที่จะเอาเงินไปบริจาคนั้น เป็นเพราะคนมาอิจฉาริษยา ยอมรับตนเอาเงินช่วยสถานธรรมจริง แต่ตามกำลัง มีน้อยให้น้อย มีมากให้มาก สถานที่ตนจะไปมีสองที่ คือที่ อ.ลำปลายมาศ และ อ.หนองหงส์ หรือไปที่ไหนก็ได้ เพราะสถานธรรมแห่งนี้มีทั่วโลก ทั่วประเทศไทย แต่จะมาต่อต้านตนคนเดียว ตนไม่สนใจเพราะตนทำหน้าที่ กรณีสามีเสียชีวิตเพราะโรคประจำตัวหลายโรค ไม่ใช่เป็นเพราะกินเจ ยอมรับว่าตอนสามีเสียชีวิตตนห้ามไม่ให้พี่น้องเอาเนื้อสัตว์มาเลี้ยงภายในงาน มีความเห็นไม่ตรงกันจึงเอาศพสามีไปทำที่วัดใน อ.ลำปลายมาศ
ต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่สถานธรรมสาขาแม่ที่ อ.ลำปลายมาศ พบเป็นสถานธรรมขนาดค่อนข้างใหญ่ มีพื้นที่อาณาบริเวณสามารถรองรับสมาชิกได้ในระดับหนึ่ง ภายในสถานธรรมมีเครื่องรางตั้งไว้เป็นจุด มีป้ายแจ้งรายนามผู้บริจาคสถานธรรม แต่เจ้าของสถานธรรมยังไม่พร้อมให้ข้อมูล