รวบอดีตตำรวจหนีหมายจับ คดีฉ้อโกงนักธุรกิจหนุ่ม กว่า 30 ล้าน
รวบอดีตตำรวจหนีหมายจับ คดีฉ้อโกงนักธุรกิจหนุ่ม กว่า 30 ล้าน
รวบอดีตนายตำรวจ สน.พญาไท ยศ “ร.ต.ท.” อ้างตัวเป็นที่ปรึกษา “ชัชชาติ” หนีหมายจับในคดี “ฉ้อโกง” นักธุรกิจหนุ่ม โครงการก่อสร้างแนววางท่อประปา มูลค่ากว่า 30 ล้าน
วันที่ 21 เม.ย. 68 นายอิทธิเดช ธเนศวัฒนะ นักธุรกิจหนุ่ม ผู้เสียหาย ได้เดินทางเข้ามายัง สน.พหลโยธิน เพื่อรอชี้ตัวอดีตนายตำรวจที่เคยก่อเหตุหลอกลวงให้ร่วมลงทุนรับงานโครงการก่อสร้างท่อประปาที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยอ้างว่าอดีตนายตำรวจคนนี้เป็นที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จนทำให้นายอิทธิเดช สูญเงินมากกว่า 30 ล้านบาท
โดยนายอิทธิเดช เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา ถูกอดีตนายตำรวจที่อ้างตัวเองว่าเป็นที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หลอกให้ไปรับเหมาช่วงโครงการก่อสร้างวางแนวท่อน้ำประปาที่จังหวัดกาฬสินธุ์ มูลค่าโครงการกว่า 200 ล้านบาท อ้างว่าโครงการดังกล่าวเดินหน้าไปแล้วกว่า 60%
หลังตกลงรับช่วงโครงการในราคา 20 ล้านบาท โดยจ่ายเงินให้อดีตตำรวจ 14 ล้านบาท ส่วนอีก 5 ล้านบาท เป็นเงินที่อดีตนายตำรวจเคยเป็นหนี้ สุดท้ายเมื่อเดินโครงการไปได้ 1 ปี พบว่าเงินประกันในโครงการดังกล่าวถูกกรมสรรพากรยึดไป เพราะบริษัทของอดีตนายตำรวจไม่ชำระภาษี นายอิทธิเดชจึงยุติโครงการ เพราะไม่สามารถเบิกเงินมาใช้จ่ายในโครงการได้เกือบ 30 ล้านบาท ซ้ำยังพบว่า หลังอดีตนายตำรวจได้เงิน 14 ล้านบาทไปแล้ว ก็ได้ยื่นหนังสือลาออกจากบริษัท และยักย้ายถ่ายเทเงินจำนวนดังกล่าวไป ทั้งๆที่ตอนแรกได้กำชับให้นำเงิน 14 ล้านบาทไปชำระหนี้ภาษี รวมมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเกือบ 40-50 ล้านบาท
ในตอนแรกได้แจ้งความที่ สน.บางซื่อ เมื่อกลางปี 2566 และสามารถติดต่อตกลงกันได้ว่าจะใช้หนี้เดือนละ 100,000 บาท แต่ใช้ไปได้ 2 เดือน อดีตตำรวจคนนี้ก็หายตัวไปตั้งแต่พฤศจิกายน เลยทำให้ตนต้องแจ้งความที่ สน.บางซื่อ รอบที่ 2 แต่ครั้งนี้อดีตนายตำรวจให้การปฏิเสธและต่อสู้คดี ซึ่งตอนนี้คดีอยู่ในชั้นศาล
ส่วนที่มาเป็นคดีความที่ สน.พหลโยธิน เกิดจากอดีตนายตำรวจได้ฟ้องศาลอาญาหาว่าตนแจ้งความเท็จ สุดท้ายศาลยกฟ้อง ตนจึงแจ้งความที่ สน.พหลโยธิน เมื่อปลายปีที่แล้วกลับในข้อหาแจ้งความเท็จกลั่นแกล้งให้คนอื่นรับโทษอาญา
โดยศาลเพิ่งออกหมายจับเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว และวันนี้อดีตนายตำรวจเพิ่งถูกศาลแขวงพระนครใต้พิพากษาจำคุก 20 เดือน จากคดีเช็คเด้ง ทางตำรวจ สน.พหลโยธิน จึงนำหมายจับเตรียมไปอายัดตัว
นายอิทธิเดช บอกด้วยว่า ทั้งนี้ตนก็รู้สึกดีใจที่สามารถได้ตัวอดีตตำรวจคนนี้กลับมาดำเนินคดี หากศาลไม่ให้ประกันตัวและถูกนำตัวส่งเข้าเรือนจำ ตนก็ยิ่งดีใจและมองว่าเวรกรรมตามทัน แม้เงินที่เสียไปเกือบ 40 กว่าล้านบาท จะไม่มีโอกาสได้กลับคืนมา แต่ตนก็ยังคงมีหวังและอย่างน้อยก็ทำให้สังคมสามารถขจัดคนไม่ดีออกไปได้ เพราะตนเชื่อว่าน่าจะมีเหยื่อที่ถูกอดีตตำรวจคนนี้ฉ้อโกงอีกจำนวนมาก
สำหรับประเด็นที่อ้างว่าเป็นที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครนั้น ตนเคยสอบถามนายชัชชาติแล้ว ก็ได้รับการยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยอดีตตำรวจคนนี้เป็นยศร้อยตำรวจเอก เคยเป็นพนักงานสอบสวนสังกัด บช.น. และลาออกจากราชการมานานแล้วเพื่อทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง รู้จักกันตั้งแต่ปี 2564 ผ่านเพื่อนอีกทีหนึ่งโดยมีอุปนิสัยชอบอวดอ้างผู้หลักผู้ใหญ่ตำรวจ