ล่าตัวคนร้ายสวมไอ้โม่ง จี้ชิงทรัพย์ แทง ชีพราหมณ์ ในสถานปฏิบัติธรรม
ล่าตัวคนร้ายสวมไอ้โม่ง จี้ชิงทรัพย์ แทง ชีพราหมณ์ ในสถานปฏิบัติธรรม
ตำรวจเร่งติดตามคนร้ายสวมไอ้โม่งใช้มีดจี้ชิงทรัพย์ “ชีพราหมณ์” ในสถานปฏิบัติธรรม จ.เชียงราย พบวีรกรรมก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง
จากกรณีเมื่อวันที่ 17 มี.ค. 68 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ศันย์ชัย พานิชกุล ผกก.สภ.บ้านดู่ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและสอบสวน เข้าตรวจสอบที่สำนักสงฆ์ รัศมีมณีโชติ(หลวงปู่ กิจ) ภายหลังรับแจ้งเหตุจี้ชิงทรัพย์ ทำร้ายร่างกายชีพราหมณ์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนร้ายหลบหนีไปได้
โดยผู้เคราะห์ร้ายที่โดนชิงทรัพย์ในครั้งนี้คือ นางเล็ก อายุ 65 ปี เป็นชีพราหมณ์ ผู้เสียหาย ถูกคนร้ายใช้มีดแทงทะลุผ้ากันเปื้อน โดนบริเวณท้องน้อยด้านขวามีบาดแผลถลอก ใกล้กันพบอาวุธมีดสั้นปลายแหลมยาว 7 นิ้วตกอยู่ โดยคนร้ายได้เงินไปประมาณ 1,000 กว่าบาท
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบที่สำนักสงฆ์ ทราบว่านางเล็ก อายุ 65 ปี เป็นชีพราหมณ์ ที่มาปฏิบัติธรรมอยู่ในสถานที่ดังกล่าว สวมเสื้อขาวแขนสั้นสวมผ้ากันเปื้อนทับ อยู่ในอาการตกใจกลัว ที่ผ้ากันเปื้อนมีรอยรูขาดประมาณ 2 เซนติเมตร ทะลุเสื้อขาว และที่ท้องน้อยด้านขวามีบาดแผลถลอก ใกล้กันพบอาวุธมีดสั้นปลายแหลมยาว 7 นิ้วตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมหลักฐานและสอบปากคำผู้เสียหายและผู้อยู่ในเหตุการณ์ และให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เพื่อตรวจร่างกาย
นางเล็ก เล่าให้ฟังว่า ขณะกำลังกวาดเศษใบไม้อยู่ มีชายลักษณะสูงสวมเสื้อกางเกง สวมหมวกไอ้โม่งสีดำปิดบังใบหน้าเข้ามาประชิดตัวด้านหลัง ใช้มีดจี้ที่หลังพร้อมกับพูดสำเนียงไม่ชัดว่าเอาเงินมา เอาเงินมาไม่งั้นจะแทงให้ตาย ตนขัดขืนยื้อแย่งมีดกับคนร้าย เป็นจังหวะที่คนร้ายล้วงเอาเงินในกระเป๋าผ้ากันเปื้อนไปประมาณ 1,000 กว่าบาท และใช้มีดแทง จึงร้องให้คนช่วย คนร้ายจึงได้ผลักจนล้มทิ้งมีดแล้ววิ่งหลบหนีไป
โดยคนร้ายสวมหมวกไหมพรมเห็นแต่ดวงตา มีกลิ่นสุรา แต่จำได้ว่าเป็นไอ้โม่งรายเดียวกับคนที่เข้ามายื้อแย่งชิงมือถือของตนหน้าห้องน้ำเมื่อหลายคืนก่อน อยากให้ตำรวจเร่งจับตัวคนร้ายโดยเร็วเพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย
ด้านนางสุมาลี คนงานในสำนักสงฆ์ เล่าให้ฟังว่า ขณะกำลังเทพื้นก่อสร้างอาคารห้องครัวอยู่กับสามี ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากนางเล็กว่า มันมาอีกแล้ว จึงรีบวิ่งเข้าไปดูเห็นนางเล็กนอนอยู่ โดยเอามือกุมท้องไว้ บอกว่าโดนแทง จึงโทรแจ้งตำรวจและกู้ภัย
“คนร้ายเคยก่อเหตุเข้ามาขโมยทรัพย์สินในสำนักสงฆ์แห่งนี้หลายครั้งแล้ว ครั้งแรกคืนวันที่ 28 ก.พ. 68 เข้ามาขโมยอาหารของใช้ในห้องครัว และพระพุทธรูปปางนาคปรกขนาดหน้าตัก 9 นิ้วไป ครั้งที่ 2 วันที่ 1 มี.ค. 68 เข้ามาขโมยถังแก๊ส และอีกอาทิตย์ต่อมา สวมหมวกไอ้โม่งเข้ามายื้อแย่งโทรศัพท์มือของป้าเล็กไป ล่าสุดวันนี้พกมีดจี้บังคับเอาเงินป้าเล็กอีก” นางสุมาลี กล่าว
จากการสำรวจภายในสำนักสงฆ์ มีกล้องวงจรปิดเพียง 2 จุด คือทางเข้าด้านหน้าสำนักสงฆ์ ที่บันทึกภาพขณะคนร้ายเข้ามาขโมยของในช่วงเวลากลางคืนไว้ได้ ส่วนอีกจุดอยู่ตรงห้องครัวซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายมาเข้ามาขโมยอาหารแต่คนร้ายได้ดึงปลั๊กออกก่อนก่อเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบเส้นทางหลบหนีและติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
ล่าสุดวันนี้ (18 มี.ค. 68) พ.ต.อ.ศันย์ชัย พานิชกุล ผกก.สภ.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย ได้มอบหมายให้ พ.ต.ต.ณัฐวุฒิ แก้วสืบ สว.สส.สภ.บ้านดู่ ติดตามความคืบหน้าของคดี และติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
โดย พ.ต.ต.ณัฐวุฒิ เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีความคืบหน้า โดยเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ที่เกิดเหตุ ตรวจสอบพยานหลักฐาน พูดคุยกับผู้เสียหาย ได้ข้อมูลบางส่วนว่าคนร้ายน่าจะเป็นใคร โดยชุดสืบสวนได้รวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อติดตามตัว ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้
“ตอนนี้ชุดสืบสวนก็ได้ลงพื้นที่เพื่อไล่กล้องวงจรปิด ติดตามหลักฐานกับพยานบุคคลต่างๆ ในการจับกุมคนร้าย ซึ่งคาดว่าจะสามารถจับตัวผู้กระทำผิดได้” สารวัตร สืบสวน สภ.บ้านดู่ กล่าว