รีวิวทดลองขับ ALL NEW GWM HAVAL H6 ที่ดีกว่าเดิม เหมาะกับครอบครัวคนรุ่นใหม่
รีวิวทดลองขับ ALL NEW GWM HAVAL H6 ที่ดีกว่าเดิม เหมาะกับครอบครัวคนรุ่นใหม่
พาไปลองขับ ALL NEW GWM HAVAL H6 ปลั๊กอิน-ไฮบริด ที่วิ่งได้ไกลด้วยโหมดไฟฟ้า 100% ถึง 150 กม.ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง เรียกได้ว่าประหยัดมากขึ้น
GWM (Thailand) เชิญ “ทีมงานไทยรัฐออนไลน์” ไปร่วมทดสอบ ALL NEW GWM HAVAL H6 รถยนต์ SUV รุ่นใหม่ล่าสุดของค่าย สิ่งที่น่าสนใจคือ เจ้ารถตัวนี้มีการปรับเปลี่ยนหลายๆ จุด ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์รถ พัฒนาซอฟต์แวร์ให้ทันสมัยมากขึ้น โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
ราคา GWM HAVAL H6 ปี 2025
– Haval H6 HEV PRO รอเปิดราคางาน Mortor show 2025
– Haval H6 PHEV PRO รอเปิดราคางาน Mortor show 2025
– Haval H6 PHEV ULTRA รอเปิดราคางาน Mortor show 2025
ALL NEW GWM HAVAL H6 รุ่น PHEV
– ALL NEW GWM HAVAL H6 รุ่น PHEV เครื่องยนต์เบนซิน DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว 1.5 ลิตร 1,499 CC ให้พละกำลังสูงสุด 240 กิโลวัตต์ หรือ 326 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 530 นิวตันเมตร
– มีระบบเกียร์ DHT (Dedicated Hybrid Transmission) จุดเด่นสามารถสลับการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างราบรื่น ช่วยให้การขับขี่เป็นไปได้อย่างนุ่มนวลและมีประสิทธิภาพในทุกความเร็ว
– ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท และระบบกันสะเทือนหลังแบบมัลติลิงค์ ช่วยลดแรงสั่นสะเทือน มอบความนุ่มนวลในทุกเส้นทาง รองรับทุกสถานการณ์และทุกสภาพถนนสำหรับครอบครัวยุคใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
– หากขับด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ไกลที่สุดในเซกเมนต์ ถึง 150 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (มาตรฐาน NEDC) มาพร้อมกับแบตเตอรี่ Lithium Ion กับความจุแบตเตอรี่ที่ให้มาถึง 27.54 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ไม่ต้องชาร์จบ่อย ทำให้ยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่
– หัวชาร์จประเภท CCS Type 2 combo ซึ่งรองรับการชาร์จแบบ DC ได้สูงถึง 41 กิโลวัตต์ รวดเร็วทันใจในการชาร์จกว่ารถยนต์ปลั๊กอิน-ไฮบริดในเซกเมนต์เดียวกัน
– โหมดการขับขี่ถึง 4 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด และพื้นหิมะ โดยรุ่น PHEV ยังสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้อีก 2 ระบบ ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (น้ำมัน + ไฟฟ้า) และโหมดการขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนอีกด้วย
ALL NEW GWM HAVAL H6 รุ่น HEV
– เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ พร้อมกับระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection ที่มอบพละกำลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร ผสานขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่มอบพละกำลังสูงสุด 179 กิโลวัตต์ หรือ 243 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 530 นิวตันเมตร
– เสริมสมรรถนะการขับขี่ด้วยการปรับเซ็ตระบบช่วงล่างใหม่ที่ถูกพัฒนาจากการรับฟังเสียงของผู้บริโภคอย่างแท้จริง ตอบโจทย์ความต้องการขับขี่ของชาวไทยมากยิ่งขึ้น มอบการขับขี่ที่มั่นคง มั่นใจ แต่ยังคงไว้ซึ่งความสบายในทุกสถานการณ์
– ช่องต่อ USB Type A และ C สำหรับผู้โดยสารด้านหน้าและหลังรวม 5 จุด และช่องต่อ USB สำหรับกล้องบันทึกภาพ 1 จุด และจุดชาร์จไฟ 12V 1 จุด
– พวงมาลัยหุ้มหนังแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมเกียร์แบบ Electronic Shifter ชุดเกียร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งบริเวณหลังพวงมาลัยง่ายต่อการใช้งาน
– โหมดการขับขี่ถึง 4 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด และพื้นหิมะ
สรุปทดลองขับ ALL NEW GWM HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV
GWM บอกกับเราว่า GWM HAVAL H6 ตัวที่ขายในประเทศไทยนี้ มีการปรับครั้งใหญ่แตกต่างกับตัวที่ขายที่จีนถึง 70% โดยทุกจุดที่อัปเกรดมานั้นฟังเสียงของผู้บริโภคและลูกค้าเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น
– รูปลักษณ์ภายนอก ทั้งด้านหน้าด้านหลังดูสมาร์ทขึ้น
– หน้าจอ Infotainment ที่ใหญ่ขึ้นขนาด 14.6
– UI และ UX ใหม่ทั้งหมด และใช้ระบบปฏิบัติการ Coffee OS 3.0 รวมถึงระบบแผนที่ของ Huawei ที่ถือว่าใช้ได้
– กล้อง 540 องศา
– พวงมาลัยและคันเกียร์ ปรับดีขึ้น ใช้งานได้ง่ายขึ้น พวงมาลัยจับถนัดมือมากขึ้น
– การเซ็ตระบบช่วงล่างใหม่ในรุ่น HEV
– ระบบเสียงปรับใหม่ดีขึ้นกว่าเดิม ฟังเพลงเพราะกว่าเดิม
สำหรับการขับขี่นั้นด้วยความที่เป็นรถครอบครัว ใช้งานในเมืองเป็นหลักการขับก็จัดว่าโอเคอยู่ ช่วงล่างมีปรับใหม่ไม่นิ่มจนเกินไป แต่ถ้าคนขับรถเร็วๆ แรงๆ เจ้าตัวนี้ก็ไม่น่าจะเหมาะเท่าไร
ทั้งนี้ ทีมงานได้ทดสอบตัว GWM HAVAL H6 รุ่น PHEV ที่ทางค่ายรถเคลมมาว่าหากขับด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% วิ่งไกลที่สุดในเซกเมนต์ ด้วยระยะทางที่ไกลถึง 150 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) และจากการทดสอบที่วิ่งจากลาดกระบังไปพัทยาด้วยระยะทาง 132.1 กิโลเมตร แบตเตอรี่ไฟฟ้าเหลือที่ 15% เลยก็ถือว่าน่าสนใจพอสมควร ซึ่งหากขับต่อไปเราอาจจะเปลี่ยนมาเป็นโหมดใช้น้ำมันก็ยังได้