ข่าวทั่วไป

ที่แท้ฝีมือเพื่อนสนิท ลวงสาว เมียนมา ให้กิ๊กหนุ่มฆ่าล้างหนี้ ทิ้งศพหมกป่า

ที่แท้ฝีมือเพื่อนรัก บงการกิ๊กหนุ่มฆ่าสาว “เมียนมา” ล้างหนี้ ทิ้งศพหมกป่ากกใน จ.พระนครศรีอยุธยา สารภาพสิ้นมีการกู้ยืมเงินกันหลายหมื่นบาทและหาคืนไม่ได้

วันที่ 11 มี.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี พ.ต.อ.สมเจษฐ์ แม้นบุตร ผกก.สภ.วังน้อย ได้รับแจ้งเมื่อช่วงเวลา 23.00 น. เมื่อคืนที่ (9 มี.ค.) ที่ผ่านมาว่า มีประชาชนแจ้งเข้ามาว่าพบรถจักรยานยนต์ตกอยู่ในคลองชลประทาน ในพื้นที่หมู่ 3 ต.ลำตาเสา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า มีโอ สีน้ำเงินขาว จมอยู่ในน้ำ แต่ไม่พบคนอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นที่มืด จึงได้ทำการนำรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวกลับมาตรวจสอบอย่างละเอียดที่ สภ.วังน้อย

จากนั้นทำการตรวจเช็คประวัติผู้ครอบครอง พบว่าผู้ครอบครองรถจักรยานยนต์เป็นคนไทย แต่พบว่าผู้ใช้รถจักรยานยนต์คือนาง ทา ซิน อู หรือ ซาซ่า สัญชาติเมียนมา อายุ 30 ปี ทำงานอยู่ภายในนิคมแห่งหนึ่ง จึงเดินทางไปตรวจสอบจนพบกับญาติของนางสาว ซาซ่า เบื้องต้นแจ้งว่านางสาว ซาซ่า หายตัวไป ยังไม่กลับที่พัก จึงได้สอบถามเพื่อนสนิทของผู้ตาย พบว่าผู้ตายได้หายไป และมีการติดต่อกับนาย ปิง อัง ชิด (ปาย อ่องชิด) อายุ 22 ปี

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.วังน้อย จึงนำกำลังเข้าไปกดดันจน นาย ปิง อัง ชิด เข้ามามอบตัว พร้อมยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงนางสาว ซาซ่า เสียชีวิต แล้วนำศพโยนทิ้งไว้ในป่ากกข้างทาง ซึ่งไม่ห่างจากจุดที่พบรถจักรยานยนต์มากนัก

จากนั้นให้ นาย ปิง อัง ชิด หรือ (ปาย อ่องชิด) ไปชี้จุดที่ทิ้งศพ จนกระทั่งพบร่างนางสาว ซาซ่า ถูกฆ่าหมกไว้ในป่ากกข้างทางจริง จึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์ นำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาด้านบน พบว่ามีบาดแผลถูกอาวุธมีดแทงทั่วตัว จำนวน 5 แผล พร้อมคุมตัว นาย ปิง อัง ชิด ผู้ต้องหามาทำการสอบสวนอย่างละเอียด โดยให้การรับสารภาพผ่านล่าม อ้างว่าตนเองกับผู้ตายคบหากันเป็นแฟน และรู้จักกันประมาณ 1 เดือน จนกระทั่งเมื่อคืนวันเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุอ้างว่าผู้ตายได้ยืมเงินสดตนเองไปจำนวน 5,000 บาท จากนั้นผู้ตายได้โทรมาหา และนัดแนะไปยังจุดเกิดเหตุ

ซึ่งตนเองก็เข้าใจว่าผู้ตายจะนำเงินมาคืน จึงเดินเท้าไปดักรอตามนัด จนกระทั่งผู้ตายขับขี่รถจักรยานยนต์มามีการยืนพูดคุยอยู่สักพักหนึ่ง จากนั้นก็อ้างว่ามีปากเสียงกัน เนื่องจากผู้ตายได้คว้าโทรศัพท์ของตนเองไป และก็ลบข้อมูลในโทรศัพท์ แล้วปาโทรศัพท์ของตนเองทิ้งลงพื้น ทำให้ตนเองโมโห จึงมีการเถียงกัน

จนกระทั่งอ้างว่าผู้ตายได้เอามือไปจับที่บริเวณเอวของตนเอง แล้วพบมีดปลายแหลมที่ตนเองพกติดเอวมา จึงดึงมีดออกมาจากเอว และมีการยื้อแย่งอาวุธมีดกัน พร้อมโชว์แผลที่มือที่ถูกกัดและถูกมีดบาด จนทำให้ฝ่ายผู้ตายกัดมาที่มือตนเอง จึงคว้าอาวุธมีดได้แทงเข้าไปที่ตัวผู้ตายหลายแผล

ซึ่งตอนนั้นยังไม่ทราบว่าตาย จึงพาไปตรงป่ากกข้างทาง กลัวส่งเสียงดัง จึงนำผู้ตายไปกดลงกับน้ำ พอแน่นิ่ง ก็ปล่อยร่างไว้ในป่ากก และมาเข็นรถจักรยานยนต์ทิ้งลงไปในคลอง เพื่อไม่ให้ใครมาพบ จากนั้นก็กลับไปทำงานปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามมาพบว่า รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวของใคร คนขับเป็นใคร และทราบว่าคบกับใคร กดดันจนคิดว่าตนเองไม่รอดแน่ จึงยอมมอบตัว

จากการสอบปากคำผ่านล่าม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ก่อเหตุ เนื่องจากผู้ตายเป็นคนค่อนข้างมีเงิน และก็จะปล่อยโทรศัพท์มือถือให้คนสัญชาติเดียวกันผ่อน และยังมีโทรศัพท์มือถือของผู้ตายจำนวน 3 เครื่อง เพิ่งไปซื้อมา เพื่อจะนำไปส่งลูกค้าผ่อน และเงินสด 2,000 บาท หายไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง เบื้องต้นตั้งข้อหา “ฆ่าคนตายโดยเจตนา” ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

คืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรวังน้อย มีการสอบผู้ต้องหา เนื่องจากยังมีข้อพิรุธหลายๆ อย่างเกี่ยวกับทั้งทรัพย์สินของผู้เสียชีวิต และคำให้การที่ยังขัดแย้งกับข้อมูลที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนทราบมา ทำให้มีการสอบอย่างเข้มจนค่ำ

จนเวลา 19.00 น. วันที่ 10 มี.ค. 68 นาย ปิง อัง ชิด หรือ (ปาย อ่องชิด) รับสารภาพว่ามีผู้อยู่เบื้องหลังอีก 1 คนที่สั่งให้ทำคือนาง มา เนือง (มะนาว) อายุ 26 ปี สัญชาติเมียนมา ว่าให้ไปฆ่านางสาว ทา ซิน อู หรือ ซาซ่า ซึ่งเมื่อวันที่ 9 มี.ค. 68 เวลาประมาณบ่ายโมง นางมา เนือง (มะนาว) ได้วางแผน โดยพาไปดูสถานที่ที่จะพานาง ทา ซิน อู มา และได้นัดให้นาย ปิง อัง ชิด หรือ (ปาย อ่องชิด) มาดักรอช่วงเวลาค่ำๆ เพื่อลงมือฆ่าตามสั่ง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไปเชิญตัวนาง มา เนือง (Miss MA NAUNG) (มะนาว) มาเพื่อสอบถามผ่านล่าม โดยนางมา เนือง ได้ให้ข้อมูลว่าเมื่อวาน ช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ได้ขับขี่รถ จยย. นั่งซ้อนท้ายเพื่อนอีกคน และมีนาง ทา ซิน อู ขับขี่รถ จยย. ตามมาอีกคัน จากนั้นเมื่อถึงจุดเกิดเหตุนาง ทา ซิน อู ได้จอดรถคุยกับนายปิง อัง ชิด (ปาย อ่องชิด) และเห็นทั้งคู่ทะเลาะกัน จึงได้ชวนเพื่อนกลับบ้าน ต่อมาจึงได้ทราบว่านาง ทา ซิน อู ได้เสียชีวิต

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ให้นางมา เนือง พาไปตรวจสอบที่พัก ในพื้นที่ ม.3 ต.วังจุฬา อ.วังน้อย ตรวจค้นพบเอกสารประจำตัวบุคคลต่างด้าว ชื่อนายปิง อัง ชิด (Mr. PAING AUNG CHIT) ในสภาพเปียกน้ำ ซุกซ่อนอยู่ภายในห้องพักฯ, พบเสื้อยืดแขนยาวสีดำและกางเกงขายาวลายช้าง และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ OPPO สีน้ำเงิน อยู่ภายในห้องพักของนางมา เนือง (มะนาว) จึงได้ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าได้สั่งให้นายปิง อัง ชิด ไปลงมือฆ่านาง ทา ซิน อู จริง

เมื่อนาง ทา ซิน อู ตายแล้ว นายปิง อัง ชิด ได้นำกระเป๋าสะพายของนาง ทา ซิน อู มามอบให้ จากนั้นจึงได้กลับบ้านพัก ต่อมาจึงได้นำกระเป๋าไปทิ้งที่ถังขยะหน้าหอพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกันไปตรวจค้นที่บริเวณถังขยะด้านหน้าหอพักดังกล่าว

ผลการตรวจค้นพบโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ OPPO สีรุ้ง และปากกาสีเหลือง พบอยู่ในถังขยะ สอบถามนางมา เนือง รับว่าเป็นโทรศัพท์และปากกาที่อยู่ในกระเป๋าสะพายของนาง ทา ซิน อู ที่ได้นำมาทิ้ง ส่วนมูลเหตุจูงใจในการลวงฆ่าครั้งนี้ มีข้อมูลว่า มะนาวกับผู้ตายเป็นเพื่อนรัก และมีการกู้ยืมเงินกันจำนวนหลายหมื่นบาทและหาคืนไม่ได้ จึงวางแผนร่วมกับนายปิง อัง ชิด (ปาย อ่องชิด) ซึ่งเป็นกิ๊กกัน ลวงผู้ตายมาฆ่าล้างหนี้

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดของกลางดังกล่าวทั้งหมดไว้ จึงได้นำตัวพร้อมด้วยของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังน้อย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยตั้งข้อหา นายปิง อัง ชิด ข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย และพาอาวุธ (มีด) ไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควร ส่วน นางมา เนือง (มะนาว) ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

Tags
ข่าวทั่วไทยฆ่าชาวเมียนมาฆ่าเพื่อนชาวเมียนมาลวงฆ่าลวงฆ่าเพื่อน

เรื่องอื่นๆ แนะนำต้องดู

Back to top button