3 หนุ่มเข้าไปลักลอบตัดไม้ กำลังนั่งพักเสพยาเสพติด ใกล้เคียงจุดเกิดไฟป่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติผาแดงเข้าไปดับถูกจับพร้อมของกลาง เลื่อยและยาบ้า 100 เม็ด เฮโรอีนจำนวนหนึ่ง พร้อมไฟแช็ก 3 อัน

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2568 นายประกาศิต ระวิวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติผาแดงพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจปราบปรามส่วนกลางอุทยานแห่งชาติผาแดง ออกลาดตระเวนปราบปรามการกระทำผิดและป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่า และตั้งด่านสกัดตรวจคนเข้าป่าบริเวณจุดเฝ้าระวังไฟป่า ร่วมกับเจ้าหน้าที่จุดเฝ้าระวังไฟป่า และเจ้าหน้าที่ทหารกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 7 บริเวณพื้นที่ป่าด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ท้องที่บ้านรินหลวง หมู่ที่ 3 ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ในเขตอุทยานแห่งชาติผาแดง

ต่อมาเวลาประมาณ 17.30 น. เจ้าหน้าที่สังเกตพบกลุ่มควันไฟ จึงเข้าไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าวแต่ไม่พบใคร กระทั่งเวลาประมาณ 18.10 น. เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจพบรถยนต์กระบะ และรถจักรยานยนต์ จอดอยู่บริเวณสวนมะม่วง ใกล้เคียงกับจุดที่พบไฟป่า ห่างออกไปประมาณ 250 เมตร เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียด ปรากฏว่า ถัดไปบนเนินเขาห่างจากจุดที่พบรถยนต์ประมาณ 200 เมตร พบบชาย 3 คน นั่งอยู่บริเวณเนินเขา

เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปสอบถามแต่สังเกตพบว่าบริเวณข้าง ๆ ชายทั้ง 3 คน พบไม้รังท่อน จำนวน 2 ท่อน ความยาวประมาณ 10 – 12 เมตร ถูกตัดวางทิ้งไว้ พร้อมกับเลื่อยมือวางอยู่กับไม้ดังกล่าว และพบอุปกรณ์ของกลางการกระทำผิดเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม และตรวจค้นชายทั้ง 3 คนอย่างละเอียด พบว่าบริเวณที่ชายทั้ง 3 คนนั่งอยู่ มียาเสพติดอยู่จำนวนหนึ่ง วางกองอยู่บนดิน

จากการตรวจสอบพบว่าเป็นยาบ้า จำนวน 100 เม็ด และเฮโรอีน จำนวนประมาณ 100 กรัม เจ้าหน้าที่จึงสอบถามว่าไม้ที่ถูกตัดเป็นของผู้ใด มีเอกสารหลักฐานการได้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งชายทั้ง 3 คนดังกล่าวไม่สามารถนำหลักฐานการได้มาซึ่งไม้ที่ถูกต้องตามกฎหมายมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้
เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าจับกุมชายทั้ง 3 คน คือนายวัลลภ อายุ 44 ปี /นายอาซา อายุ 48 ปี และ นายวุฒิชัย อายุ 51 ปี จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสามคนให้การรับสารภาพว่า ได้เข้าไปในสวนเพื่อทำการพ่นยาสวนมะม่วง และเข้าไปตัดไม้รังที่ถูกล้มไว้บนเนินเขา จำนวน 1 ต้น เพื่อไปทำเสาบ้าน ตนเองกับพวก เมื่อตัดไม้เสร็จแล้วจึงนั่งพักและกำลังจะเสพยาเสพติด แต่ถูกเจ้าหน้าที่มาพบเข้าเสียก่อน จึงยังไม่ทันได้เสพยาเสพติด และถูกควบคุมตัวมายังที่ทำการอุทยานแห่งชาติผาแดง เพื่อทำการสอบสวนอย่างละเอียด ถึงสาเหตุการตัดไม้และไฟไหม้ป่าห่างจุดเกิดเหตุไปประมาณ 250 เมตร แต่ผู้ต้องหาทั้งสามคนให้การปฏิเสธว่าไม่ได้มีการเผาป่าแต่อย่างใด

เบื้องต้นตั้งข้อหา 1. ฐานร่วมกันกระทำด้วยประการใด ๆ ให้เป็นอันตราย หรือทำให้เสื่อมสภาพ ซึ่งไม้ หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่น หรือกระทำการอื่นใดอันส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพ และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 19 (2) มาตรา 42 และมาตรา 56

2. ฐานร่วมกันทำไม้ โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 และมาตรา 31 (แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ ฉบับที่ 4 พ.ศ. 2559)

3. ฐานร่วมกันทำไม้ หรือเจาะ หรือสับ หรือเผา หรือทำอันตรายด้วยประการใด ๆ แก่ไม้หวงห้าม โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 11 และมาตรา 73

4. ฐานร่วมกันมีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ. 2545 มาตรา 4 และมาตรา 17

5. ฐานร่วมกันฝ่าฝืนประกาศอุทยานแห่งชาติผาแดง เรื่อง ห้ามเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติผาแดง ฉบับลงวันที่ 27 มกราคม 2568 เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติผาแดงโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 20 และมาตรา 47 และในส่วนของความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาทั้ง 3 รายดังกล่าวในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนดังกล่าว ให้การยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าว จึงได้ตัวส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรนาหวาย เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป