หนุ่มเมา ตามง้ออดีตเมียไม่สำเร็จ ขับปิกอัพชนรถ “อาสา ตร.” อัดเสาไฟฟ้า ดับสลด
หนุ่มเมา ตามง้ออดีตเมียไม่สำเร็จ อาละวาดขับปิกอัพพุ่งชนรถ “อาสาตำรวจ” ที่เข้าระงับเหตุ อัดก็อปปี้กับเสาไฟฟ้า เจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 5 มีนาคม 2568 ร.ต.อ.นิวัตร แจงกระโทก รอง สว.(สอบสวน) สภ.ย่อยนาข่า อ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุ แฟนเก่ามาง้อขอคืนดี แต่แฟนสาวไม่คืนดี ทำให้มีการโต้เถียงทะเลาะวิวาทกัน เหตุเกิดที่บริเวณบ้านค่ายเสนีย์ ต.หนองขอนกว้าง มีอาสาตำรวจชุมชนตำบลหนองขอนกว้าง 1 นายออกไประงับเหตุ และโดนผู้ชายซึ่งเป็นแฟนเก่าขับรถปิกอัพพุ่งชน ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงพร้อมด้วยกู้ชีพโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบ รถปิกอัพ เอ็มจี สีขาว Extender หมายเลขทะเบียน ผบ 3509 อุดรธานี ชนกับรถโตโยต้า อะแวนซ่า สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กน 9686 อุดรธานี กระเด็นไปอัดกับเสาไฟฟ้า สภาพพังยับเยินทั้งสองคัน ผู้บาดเจ็บสาหัสนอนอยู่กลางถนน ทราบชื่อภายหลังคือ นายมิตร ขันตีตาง อายุ 59 ปี อาสาตำรวจชุมชนตำบลหนองขอนกว้าง จึงเข้าปฐมพยาบาลเบื้องต้น และใส่เครื่องช่วยหายใจ นำส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และเสียชีวิตในเวลา 00.45 น.
ส่วนเจ้าของรถปิกอัพที่ขับพุ่งชน ทราบชื่อภายหลังว่านายธีรวุฒิ ชีพจำเป็น อายุ 42 ปี ชาว ต.โพนสูง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป โดยมีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดจากบ้านที่อยู่ใกล้เคียง เป็นหลักฐาน
ต่อมาเวลา 12.30 น. วันที่ 6 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่เกิดเหตุ พบประตูรั้วบ้านพังเสียหาย มีรอยรถบริเวณถนนหน้าบ้าน มีชิ้นส่วนอะไหล่รถทั้งสองคันตกอยู่บริเวณเสาไฟฟ้าทางเลี้ยวเข้าถนนหน้าบ้าน มีนายชณธิป พังพี อายุ 29 ปี เพื่อนบ้านเล่าว่า ตอนเกิดตนไม่เห็นเพราะอยู่ในบ้าน แต่ก่อนเกิดเหตุ เห็นรถปิกอัพสีขาวขับผ่านถนนหน้าบ้านไปมา 2-3 รอบ จากนั้นก็ได้ยินเสียงรถชนกัน แต่ไม่รู้ว่ามีผู้บาดเจ็บ หลังจากนั้นก็เห็นรถพยาบาลเข้ามารับผู้บาดเจ็บ และมาทราบภายหลังว่าผู้บาดเจ็บได้เสียชีวิต ส่วนสาเหตุทะเลาะกันตนไม่ทราบเลย
ด้าน พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจากหัวหน้า สภ.ย่อยโนนสูง เป็นการทะเลาะวิวาท มีปากเสียงกันระหว่างสามีภรรยาที่เลิกลากันไปแล้ว แต่ก็ยังตามมา พูดคุยและราวีอยู่ และมีการไประงับเหตุทะเลาะวิวาทหลายครั้ง โดยนายมิตร อาสาตำรวจชุมชนตำบลหนองขอนกว้าง ซึ่งมีความขยันหมั่นเพียรที่จะช่วยงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ผู้ตายเป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน ตามกฎหมายของ สภ.เมืองอุดรธานี โดยตนซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วย ก็รู้สึกเสียใจกับการสูญเสียของเจ้าหน้าที่เรา สาเหตุตอนนี้ เรายังพิสูจน์จากการดูกล้องวงจรปิดจากในบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ และพยานแวดล้อมว่าเป็นการตั้งใจขับที่จะพุ่งชน ซึ่งอาจจะเข้าข่ายฆาตกรรม หรือว่าเป็นอุบัติเหตุจากการมึนเมา จะต้องสอบพยานในที่เกิดเหตุ
ผู้กำกับการ สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยต่อว่า ผู้ก่อเหตุได้ใช้จังหวะชุลมุน ที่กำลังช่วยผู้บาดเจ็บ วิ่งหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองกำลังติดตามจับกุม ตอนนี้ได้ให้ชุดสืบสวนลงติดตามตัวผู้ก่อเหตุ และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ลงติดตามตัว และในการปฏิบัติหน้าที่ของ อส.ตร. ต้องยึดหลักในการปฏิบัติหน้าที่เหมือนเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ชัยรัตน์ ประสารพันธ์ รอง ผกก. ป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองอุดรธานี มีการอบรมฝึกทบทวนยุทธวิธีตลอด
ต่อมาเวลา 14.00 น. วันที่ 6 มีนาคม 2568 ร.ต.อ.อุดมโชค สิงหกุลศิริ รอง สว.สส.สภ.ย่อยโนนสูง นำกำลังเข้าจับกุมนายธีรวุฒิ ชีพจำเป็น อายุ 42 ปี ผู้ก่อเหตุ ได้ที่ห้องพักอพาร์ตเม้นต์แห่งหนึ่งอยู่ ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กม.
โดยนายธีรวุฒิ ให้การว่า ตนเปิดเต็นท์รถมือสองกับอดีตภรรยา ซึ่งเป็นพยาบาล คบหากันประมาณ 5 ปี ต่อมาตนได้แยกทางกัน เพราะตนนอกใจภรรยา และมีปัญหาเรื่องธุรกิจที่ทำร่วมกัน โดยแยกทางกันได้ 7 เดือน แต่ก็คุยกันตามปกติ แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ตนก็จะมาบ้านหลังนี้ประจำเพราะสร้างมาด้วยกัน
ก่อนเกิดเหตุ ตนได้ดื่มเหล้า 3-4 แก้ว ไม่ปฏิเสธว่าเมา แล้วตามมาง้ออดีตภรรยา แต่ภรรยาไม่คืนดี และมีปากเสียงทะเลาะกัน ภรรยาจึงโทรแจ้งตำรวจ พอเจ้าหน้าที่มาถึง ได้จอดรถและเปิดไฟสูงใส่ ตนก็ได้ขับรถปิกอัพออกมาด้วยความรวดเร็ว ตนไม่เห็นเจ้าหน้าที่ แต่พอลงมาก็พบว่าชนเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ ตนเลยเดินกลับมาห้องพัก ตื่นเช้าคิดว่าจะแจ้งประกันให้ แต่ตำรวจเข้ามาจับก่อน โดยตนไม่รู้ว่าผู้ที่ตนขับรถชนเสียชีวิต
อยากขอโทษผู้ตาย และญาติพี่น้องผู้ตาย ขอให้ไปสู่สุขติ จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ ตนไม่ได้ตั้งใจ ไม่รู้ว่าชน ซึ่งมันเป็นเหตุที่ตนทำเองและยอมรับผิด ขออโหสิกรรมให้ผมด้วย ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต” ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.