ตำรวจ สภ.อุดรธานี ตามรวบแล้ว ชายหญิงป่วยจิตเวช นั่งเสพยาบ้าข้างรั้วโรงเรียน
ตำรวจอุดรธานีตามรวบแล้ว
ชายหญิงป่วยจิตเวช นั่งเสพยาบ้าข้างรั้วโรงเรียน หลังครูแจ้งร้องทุกข์ หวั่นเด็กไม่ปลอดภัย-เกิดการเลียนแบบ
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 5 มีนาคม 2568 ขณะที่ ร.ต.อ.ถิรโยธิน ทรัพย์สินธ์ รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 มีชายหญิงสติไม่สมประกอบ นั่งเสพยาบ้าอยู่ริมรั้วโรงเรียนเทศบาล 7 (รถไฟสงเคราะห์) ถนนทองใหญ่ เขตเทศบาลนครอุดรธานี เกรงว่าจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีสำหรับเด็กนักเรียน และเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับเด็กนักเรียน
สายตรวจ 191 จึงรุดไปตรวจสอบ พบจ่าสิบเอกวิทยา เหี้ยมเหิน อายุ 32 ปี ครูดนตรีโรงเรียนเทศบาล 7 ยืนรออยู่หน้าโรงเรียน และชี้ไฟแช็กที่ใช้จุดเสพยา พร้อมกับเล่าว่า ตนเข้าเวรหน้าโรงเรียนพอดี เห็นคนแจ้งลงในเพจ ว่ามีคนนั่งเสพยาบ้าติดรั้วโรงเรียน จึงเดินมาดูพบ ผู้หญิงกำลังเสพยาบ้า ส่วนชายก็ยืนมอง ตนจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ หลังเสพยาเสร็จ ผู้หญิงเดินไปที่หน้าประตูโรงเรียน ส่วนผู้ชายเดินไปทางถนนวัฒนานุวงศ์ ซึ่งทั้งสองคนนี้จะมานั่งที่นี่ประจำ ทางโรงเรียนจึงให้คณะครูคอยสอดส่องดูแลนักเรียนในช่วงก่อนเข้าเรียน และหลังเลิกเรียน รวมถึงเจ้าหน้าที่เทศกิจก็มาช่วยดูแลเป็นหูเป็นตา เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
ตำรวจจึงเดินไปบริเวณรั้ว พบไฟแช็ก 1 อัน และเดินไปที่ประตูโรงเรียน พบผู้หญิงซึ่งมีลักษณะแต่งตัวมอมแมม สะพายย่าม และกระเป๋าหลายใบ ผมกระเซิง สอบถามว่าชื่ออะไร มาจากไหน พูดภาษาไทยสำเนียงเขมร แต่พูดไม่รู้เรื่อง จึงนำตัวขึ้นรถกระบะตราโล่ และขับรถตามหาผู้ชายอีกราย พบเดินอยู่บนถนนวัฒนานุวงศ์ เขตเทศบาลนครอุดรธานี ห่างจากโรงเรียนประมาณ 500 เมตร ซึ่งก็พูดจาไม่รู้เรื่องเช่นกัน คาดว่าจะเสพยาเสพติดจนมีอาการทางจิตเวช จึงควบคุมตัวขึ้นไปสอบสวนที่โรงพัก
ร.ต.อ. ถิรโยธิน ทรัพย์สินธ์ รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่า ชื่อคำหล้า อายุ 35 ปี เป็นชาวกัมพูชา มีสามีเป็นชาวไทย มีอาการทางจิตประสาท และมีญาติอยู่บ้านโคกนาคลอง ต.หนองขอนกว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี ตำรวจเคยนำตัวไปส่งที่บ้านญาติแล้ว 1 ครั้ง และจะได้นำตัวไปส่งญาติอีก เพื่อนำตัวไปรักษา ส่วนผู้ชายอ้างว่า ชื่อนายวัฒนา อายุประมาณ 20-25 ปี เป็นชาว อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี ซึ่งตำรวจจะได้ติดต่อญาติให้มารับตัวไปบำบัดอาการเสพยา และรักษาอาการทางจิตเวชต่อไป.