“ธนกร” ย้ำ จุดยืน รทสช.ค้านนิรโทษกรรมเหมาเข่ง ม.112 ขออย่าดันทุรัง
“ธนกร” ย้ำ จุดยืน หนุน ร่างพ.ร.บ. เสริมสร้างสังคมสันติสุข รทสช. ค้านนิรโทษกรรมเหมาเข่ง ม.112 ชี้ สถาบันฯ ไม่เกี่ยวการเมือง มอง หากดันทุรัง หวั่น จุดฉนวนซ้ำเติมความขัดแย้งรอบใหม่
วันที่ 7 มิ.ย. 2567 นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ สส.แบบบัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีที่มีประชาชนหลายกลุ่มได้ยื่นข้อเรียกร้องคัดค้านการรวมคดีที่ทำผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 รวมอยู่ใน 25 เงื่อนไขแรงจูงใจทางการเมืองในร่างพ.ร.บ. นิรโทษกรรม ว่า การจะออกกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อให้ประเทศออกจากความขัดแย้ง สร้างความปรองดองทุกฝ่ายถือว่าเป็นเรื่องที่ดีแต่ตนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการเสนอให้รวมผู้ทำผิดคดีประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ให้ได้รับการนิรโทษกรรมด้วย และย้ำจุดยืนมาโดยตลอด เพราะการชุมนุมทางการเมือง รวมถึงความขัดแย้งความเห็นต่างทางการเมืองมีระหว่างกลุ่มประชาชนและมวลชนเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์แต่อย่างใด แต่การที่จะนำคดีมาตรา 112 เข้ามารวมในคดีการเมืองด้วยนั้น เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่เป็นที่ยอมรับอย่างแน่นอน มากกว่านั้น อาจส่งผลทำให้เกิดความขัดแย้งในสังคมขึ้นใหม่ด้วยซ้ำ
ทั้งนี้ แม้ว่าคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร จะยังไม่ได้สรุปออกมา ว่าจะรวมคดีมาตรา 112 เข้าด้วยหรือไม่ก็ตาม ตนจึงขอเรียกร้องให้ถอดการกระทำความผิดในคดีนี้ออกจากการพิจารณาว่ามาจากแรงจูงใจทางการเมืองทันที ไม่จำเป็นต้องเสี่ยง หรือ ลังเลที่จะพิจารณากันหลายรอบ เพราะตามหลักการทางกฎหมายก็ชัดเจนอยู่แล้ว
พร้อมกันนี้ สนับสนุนร่างพ.ร.บ.เสริมสร้างสังคมสันติสุขของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ได้เสนอกฎหมายแนวทางสร้างสันติสุขความปรองดองให้เกิดขึ้นในประเทศ โดยไม่รวมคดีมาตรา 112 ที่ยื่นต่อสภาไว้แล้ว
“ผมในฐานะสส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ย้ำจุดยืนชัดเจนมาตลอด ว่า ไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมให้กับผู้กระทำมาตรา 112 เนื่องจากเป็นคดีความมั่นคงของชาติ เป็นกฎหมายที่มีไว้ปกป้อง สถาบันพระมหากษัตริย์ประมุขแห่งรัฐ ใครจะละเมิดไม่ได้ ไม่ใช่คดีการแสดงความเห็นทางการเมืองแต่อย่างใด ซึ่งสิทธิและเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตย สามารถวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล นายกฯ อดีตนายกฯ นักการเมืองโดยสุภาพสามารถทำได้ เพราะถือเป็นฝ่ายการเมืองโดยตรง แต่การอาฆาตมาดร้ายการแสดงออกที่ดูหมิ่นก้าวล่วง ทั้งด้วยวาจาและการกระทำต่างๆ ต่อสถาบันฯ เป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะสถาบันฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ หรือความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประชาชนแต่อย่างใด ซึ่งยอมรับว่ามีขบวนการ บางพรรคการเมืองต้องการที่จะดึงให้มายุ่งเกี่ยวกัน และยังปลุกมวลชนออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้จนเกิดคดีถูกจับกุม โดยปกติคนทั่วไปไม่ได้มีปัญหากับมาตรา 112 เลย จึงขอเรียกร้องกลุ่มคน พรรคการเมืองบางพรรค หยุดบิดเบือนข้อมูลโน้มน้าวทำให้ประชาชนสับสนเสียที” นายธนกร ย้ำ