ค้นเซฟเฮาส์อุเทนถวาย ล่ามือแทงปทุมวัน จับแล้ว 3 ผู้ต้องสงสัย อีก 2 ญาติยันเป็นเด็กเรียน
สืบนครบาล ค้น 7 จุด ทั่วกทม.และปริมณฑล ทลายรัง-ล่ามือแทงนักศึกษาปทุมวัน จับแล้ว 3 จาก 9 คน ได้ผู้ต้องสงสัยอีก 2 ขณะที่ญาติยันปกติเป็นเด็กเรียน ไม่เกเร ให้ห้อยพระไปเรียนด้วยจะได้แคล้วคลาด
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 30 มกราคม 2567 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น 7 จุด ทั่ว กทม.และปริมณฑล ค้นหากลุ่มผู้ก่อเหตุรุมทำร้าย และใช้อาวุธมีดแทง นักศึกษาที่หน้าสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันเสียชีวิต โดยจุดสำคัญคล้ายเป็นที่ซ่องสุม หรือเซฟเฮาส์ ของกลุ่มผู้ก่อเหตุ บ้านไม่มีเลขที่ แบ่งห้องให้เช่า ภายในชุมชนวัดไผ่เงิน ซอยจันทน์ 43 แยก 22-3 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม. เป็นห้องเช่าของเพื่อนร่วมสถาบัน ที่หนึ่งในผู้ต้องหามาหลบหนีพักอาศัยอยู่หลังก่อเหตุ และมักจะมีกลุ่มเด็กช่างอุเทนถวายวนเวียนมารวมตัวอยู่บ่อยครั้ง จนเป็นที่รู้กันของชาวบ้านในละแวกเคียงว่าย่านนี้เป็นแหล่งซ่องสุมของนักศึกษาอุเทนถวาย จึงควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 2 คน ซึ่งอยู่ในห้องดังกล่าวไปสอบปากคำ
นายสัมพันธ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ลุงของ 1 ในผู้ต้องสงสัย เปิดเผยว่า ไม่เคยรับรู้มาก่อนเลยว่าหลานชายไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มนักศึกษาหัวรุนแรง เพราะปกติเป็นเด็กเรียน ไม่เกเร แต่ก็มักจะมีเพื่อนแวะเวียนมาหาบ่อยครั้ง นั่งพูดคุย นอนค้าง และทำงานส่งอาจารย์กันตามปกติ แต่ก็ยอมรับว่าเคยถูกคู่อริต่างสถาบันทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ไม่ได้ไปร่วมก่อเหตุรุนแรงกับเพื่อนแต่อย่างใด อีกทั้งยอมรับว่ารู้สึกเป็นห่วงที่หลานเรียนในสถาบันที่คู่อริมักใช้ความรุนแรงตอบโต้ระหว่างกัน เคยบอกเคยเตือนหลานให้ระวังตัวตลอดเวลา ให้ห้อยพระไปเรียนด้วยจะได้แคล้วคลาด
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) เปิดเผยว่า การเข้าตรวจค้นเมื่อช่วงเช้า เป็นรังแหล่งซ่องสุม หรือ เซฟเฮาส์ของกลุ่มผู้ก่อเหตุ และพบผู้ต้องสงสัย 2 คนอยู่ในเซฟเฮาส์ แต่ไม่ได้ร่วมก่อเหตุ แต่ให้ที่พัก และช่วยให้หลบหนี อีกทั้งตำรวจพบหลักฐานเป็นรองเท้าเปื้อนเลือดด้วย ยืนยันว่ามีหลักฐานชัดเจนในการเอาผิด
ขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน จากหมายจับทั้งหมด 9 คน ที่ร่วมก่อเหตุแทงนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันเสียชีวิต 2 คนแรกจับได้ที่ชุมชนวัดไผ่เงิน ส่วนอีกคนควบคุมตัวก่อนหน้านี้ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บนิ้วขาด ขณะก่อเหตุต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออยู่ระหว่างการไล่ล่า
ทั้งนี้หลังจากตำรวจกวดขันจับกุม ก็ทำให้กลุ่มคนเหล่านี้มีความระมัดระวังตัวมากขึ้น จึงฝากเตือนไปยังผู้ที่ให้การช่วยเหลือ หรือสนับสนุนช่วยเหลือผู้ต้องหาหลบหนี จะถูกดำเนินคดีด้วย.