ขบวนแห่นาคจากวัดไทยพุทธคยา ต.พุทธคยา อ.คยา จ.มคธ รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ไปยังมหาเจดีย์พุทธคยา อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ในขบวน โดยมี พระธรรมโพธิวงศ์ (วีรยุทฺโธ) หัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล/เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา เป็นประธานในพิธี.
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ต.สุพิชัย สุนทรบุระ รองเลขาธิการพระราชวัง เป็นผู้อัญเชิญพระไตรและเครื่องไทยธรรม ถวายเป็นพุทธบูชา มงคลกาล ต้นพระศรีมหาโพธิ์
เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา
พร้อมน้อมพระราชกุศลอุทิศถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ในโอกาสครบรอบวันพระราชสมภพ เมื่อวันที่ 1 ม.ค. เป็นปีที่ 145 ณ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ เมืองพุทธคยา รัฐพิหาร อินเดีย
โครงการบรรพชาอุปสมบทครั้งนี้ เริ่มด้วยการประกอบพิธีปลงผมนาค ณ มณฑลพิธี ที่พระมหาเจดีย์พุทธคยา วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี จ.สมุทรปราการ รับผ้าไตรพระราชทานและเครื่องอัฐบริขาร วันที่ 23 ม.ค.2567
จากนั้นวันที่ 24 ม.ค.ประกอบพิธีบรรพชา 77 รูป และบวชชีพรหมโพธิ 13 คน ณ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้ ต.พุทธคยา หรือเมืองพุทธคยา อ.คยา จ.มคธ ประเทศอินเดีย
โดย สมเด็จพระมหาธีราจารย์ ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ มอบหมายให้พระพรหมเสนาบดี เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคา เป็นประธานฝ่ายบรรพชิต
มี พระธรรมโพธิวงศ์ (วีรยุทฺโธ) หัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย- เนปาล/เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา พระวิเทศวชิรญาณ วิ. รักษาการเจ้าอาวาสวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ นำทีมพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมพิธีอย่างคับคั่ง
พระธรรมโพธิวงศ์ ถวายอดิเรกถวายพระพรชัยมงคลและกล่าวอนุโมทนากถาแก่สามเณรและชีพรหมโพธิใจความว่า
“พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ตรัสรู้ชอบโดยพระองค์เอง ทรงประกาศพระพุทธศาสนาให้ผู้ปฏิบัติตามมีศรัทธาต่อพระรัตนตรัย ขอบวชในศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นศาสนทายาทของพระองค์มาแต่บรรพกาล
พระพุทธศาสนาเจริญงอกงามนำสังคมไทยสู่ความเป็นปึกแผ่นสงบร่มเย็นเพราะพุทธศาสนา ที่พุทธบริษัทไทยทั่วโลกพร้อมใจกันยอมรับว่าเป็นศาสนาประจำชาติ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพุทธมามกะ
การบวชได้หยั่งรากลงสู่ฐานของชีวิตอันงดงาม ดั่งกุศลเจตนาอย่างสูงขอรับบรรพชาอุปสมบทภายในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธองค์ ที่ปัจจุบันยังคงดำรงอยู่เป็นพุทธานุสรณ์ ณ สังเวชนียสถาน เป็นต้นลำดับที่ 4 ซึ่งถือกำเนิดเมื่อปี พ.ศ.2423
นับเป็นการเดินตามรอยบาทพระบรมศาสดา โดยการบวชเรียน ศึกษาพระธรรมคำสอน และปฏิบัติตนให้ถึงพร้อมซึ่งไตรสิกขา แสดงความกตัญญูต่อคุณบิดา มารดา สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ จัดเป็นความดีที่ยิ่งใหญ่ เป็นบุญอันประเสริฐยิ่ง”
พิธีอุปสมบทจัดขึ้นวันที่ 25 ม.ค. ณ พระอุโบสถ วัดไทยพุทธคยา จากนั้นพระนวกะทั้ง 77 รูป พร้อมด้วยชีพรหมโพธิ 13 ท่าน ได้เดินทางไปจาริก ณ สังเวชนียสถานทั้งสี่
ขณะที่ พระวิเทศวชิรญาณ วิ. รักษาการเจ้าอาวาสวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ผู้อำนวยการโครงการ กล่าวเพิ่มเติมว่า
“โครงการอุปสมบทนี้จัดขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้า เจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์
พร้อมทั้งส่งบุญเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี เนื่องในโอกาสอายุวัฒนมงคลวันเกิด
ทั้งนี้ ถือเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่พระนวกะและชีพรหมโพธิ จะฝึกตนเองให้เป็นคนดีสร้างคุณประโยชน์ของประเทศชาติและพระศาสนาต่อไป”
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ.