สัปเหร่อตะลึง เผาศพแม่เฒ่าใจบุญ ส่วนอื่นไหม้เป็นเถ้า กะโหลกยังอยู่
ศพแม่เฒ่าชาวหนองฉาง อุทัยธานี ถูกนำไปฌาปนกิจเข้าเตาเผา ใช้ถ่าน 4 กระสอบเหมือนศพทั่วไป เช้าเปิดเตาจะเอากระดูกไปแปรธาตุ ปรากฏว่าส่วนอื่นถูกเผาไหม้ย่อยสลายกลายเป็นเถ้าอัฐิ เหลือแต่กะโหลกตั้งอยู่ พระเผยผู้ตายเป็นคนใจบุญ ด้านคอหวยไม่พลาด นำเลขอายุ ชาตะ มรณะ ไปเสี่ยงดวง
เวลา 16.30 น. 8 ม.ค.67 พระครูอุทิตธรรมคุณ เจ้าอาวาสวัดวังบรเพชร (มะพร้าวสูง) หมู่ 4 ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ได้พาไปดูเมรุเผาศพของทางวัด ซึ่งมีการเผาศพเมื่อช่วงบ่ายของเมื่อวานนี้ โดยเจ้าอาวาส เผยว่า หลังพิธีเผาศพ สัปเหร่อของวัดได้ไปดึงลิ้นชักของเตาเผาศพ ที่เผาศพ คุณแม่จำรัส พะจุไทย อายุ 80 ปี เมื่อวันที่ 6 ที่ผ่านมา เพื่อเตรียมนำไปแปรธาตุประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล แต่กลับพบว่าชิ้นส่วนร่างของศพถูกเผาไปหมดตามปกติ ยกเว้นหัวกะโหลก ยังสภาพเกือบสมบูรณ์ ไม่ถูกไฟเผามอดไหม้ไปเหมือนส่วนอื่นๆ จากนั้นสัปเหร่อได้แจ้งพระให้ไปดูก็พบจริงดั่งสัปเหร่อบอก จึงคิดไปว่าโยมแม่จำรัสขณะมีชีวิตอยู่เป็นคนชอบทำบุญเป็นประจำ อำนาจบุญกุศลที่ทำจึงน่าจะก่อเกิดปรากฏการณ์เผากะโหลกไม่ไหม้
ขณะที่ นายสาคร พะจุไทย สามีของผู้ตาย บอกว่ารู้สึกประหลาดใจเช่นกันกับปรากฏการณ์ที่พบ ลักษณะที่เห็นเหมือนมีใครนำหัวกะโหลกไปวางไว้ท่ามกลางเถ้ากระดูก ในสภาพหัวกะโหลกที่มีเบ้าดวงตา ปาก ยังอยู่ครบ แม้ถูกไฟไหม้ พร้อมเผยว่าภรรยาขณะมีชีวิตเป็นคนแข็งแรง และชอบเข้าวัดทำบุญตลอด ซึ่งวันที่นำกระดูกผู้ตายเข้าบ้าน ขณะนำกระดูกขึ้นบนบ้าน หมาก็หอนกันรอบบ้าน จนลูกสาวกลัว และถามว่าทำไมหมาหอน สงสัยแม่มา
ส่วนชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างพากันไปขอดู บอกเสียงเดียวกันว่าไม่เคยพบเห็นการเผาศพที่ส่วนอื่นไหม้หมดเว้นแต่หัวกะโหลกเช่นนี้ ทั้งที่ในการเผาใช้ถ่านเป็นเชื้อเพลิงถึง 4 กระสอบ ซึ่งศพอื่นๆ ใช้เพียง 3 กระสอบก็ไหม้หมด ขณะที่ชาวบ้านที่เป็นคอหวยบอกว่านำเลขอายุวัดเกิดของผู้ตาย ชาตะ พ.ศ. 2487 มรณะ 2 มกราคม 2567 รวมอายุ 80 ปี ไปเสี่ยงโชคกัน