“พิธา” หอบหลักฐาน แจงศาลรัฐธรรมนูญ คดีหุ้นไอทีวี มั่นใจตอบสิ้นสงสัยได้
“พิธา” หอบหลักฐานใส่กระเป๋า 2 ใบ ชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญ หลังเรียกไต่สวน พยานบุคคล คดีหุ้นไอทีวี มั่นใจ ตอบข้อสงสัยได้แน่ ย้ำ ไอทีวีไม่ได้เป็นสื่อแล้ว ไม่ได้ประกอบกิจการตั้งแต่ปี 50
วันที่ 20 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ผู้ร้อง) ส่งคำร้องขอให้พิจารณาวินิจฉัยกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อสารมวลชนใดๆ อยู่ในวันที่สมัครรับเลือกตั้ง สส.แบบบัญชีรายชื่อ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพ สส. ของนายพิธา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ และศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย และสั่งให้ นายพิธา หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. นับแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
ซึ่งวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญ ได้นัดไต่สวนพยานบุคคล และอนุญาตให้เฉพาะคู่กรณีและบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟังการไต่สวนเท่านั้น โดยมีการวางมาตรการอย่างเข้มงวด
เวลา 08.40 น. นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. พร้อมคณะในฐานะตัวแทนของ กกต. ได้เดินทางมาร่วมการไต่สวน โดยไม่ได้มีการให้สัมภาษณ์ใดๆ
ต่อมาเวลา 09.10 น. นายพิธา และคณะ ซึ่งเดินทางมาพร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 2 ใบ พร้อมให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมการไต่สวนว่า วันนี้ได้ถือโอกาสสื่อสารข้อเท็จจริง และมั่นใจในข้อเท็จจริง รวมถึงหวังว่า จะได้รับความเป็นธรรมจากศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งประเด็นรายละเอียดของการชี้แจงขอเก็บไว้ชี้แจงในศาลรัฐธรรมนูญ แต่สิ่งที่เปิดเผยในเช้านี้และเป็นการยืนยันข้อเท็จจริงต่อเรื่องที่มีการกล่าวหา คือ บริษัทไอทีวี ไม่ได้เป็นสื่อแล้ว ไม่ได้ประกอบกิจการมาตั้งแต่ ปี 50 และสื่อมวลชนก็รายงานว่า รายได้ทั้งหมดมาจากดอกเบี้ยในการลงทุน ดังนั้น เมื่อเทียบกับระบบยุติธรรมคำพิพากษาในอดีตก็ยืนยันได้ว่า ไอทีวีไม่ได้เป็นสื่อ ซึ่งตนพร้อมที่จะตอบคำถามอย่างละเอียดทั้งในแง่มุมของตัวบริษัทไอทีวีเอง และอาจจะมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของตนก็ได้ทบทวนข้อเท็จจริงแม้ว่ามันจะนานมาแล้วถึง 16 ปี ตั้งแต่คุณพ่อเสียเมื่อปี 49 และไอทีวีหยุดประกอบกิจการเมื่อปี 50 ซึ่งก็มั่นใจว่า จะใช้โอกาสนี้ในการพูดเป็นครั้งแรก และถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี ซึ่งก็รอวันนี้มานาน
เมื่อถามถึงกระเป๋าเดินทาง 2 ใบ เป็นหลักฐานที่เตรียมมาชี้แจงใช่หรือไม่ นายพิธาว่า ครับ ในชั้นศาลก็จะมีหมายที่ทางศาลเรียก คือมีทั้งผู้ร้อง ผู้ถูกร้องและศาล และวัตถุพยานทั้งหลาย ขณะนี้ตนไม่มีข้อกังวลใดๆ ดีใจที่ได้มีโอกาสพูดและสื่อสารในมุมของเรา แน่นอนว่า กกต.ก็มีหน้าที่ของ กกต. ส่วนของเราถ้าเขามีข้อสงสัยตรงไหนก็ยินดีที่จะตอบให้สิ้นข้อสงสัย
ขอบคุณข้อมูลจาก : เว็บไซต์ข่าวไทยรัฐ