“ถึงทุกๆ คน ปัญหาเรา 2 คนมาถึงทางตันแล้ว ขอให้ ผู้กองอาทิตย์-ป้าเพ็ญ-อังทานา มอบให้โรงพยาบาลเผาศพเรา 2 คน ไม่ต้องมีพิธี ไม่ต้องนำกลับมา เงินเราอยู่ที่อังทานา 100,000 บาท และฝากให้ป้าเพ็ญในกระเป๋าเล็ก 2 ใบในบ้าน รายละเอียดเอกสารอยู่ในบ้าน สวัสดิการไรต่างๆ ที่ทำไว้คงจะไม่ได้รับผลประโยชน์ ทำให้เรียบง่ายที่สุดและขออโหสิกรรมที่ทำให้เดือดร้อน”

เป็นข้อความของนางอุบล เจ้าของบ้านเขียนสั่งเสีย ขณะที่ห้องโถงใกล้กับทางขึ้นลงบันไดบ้านชั้นล่างของตัวบ้าน พบศพนางอุบล ใจสบาย อายุ 59 ปี หรือรู้จักกันในนามแม่เลี้ยงโม นอนเสียชีวิตในสภาพสวมเสื้อแขนสั้นสีเหลือง สวมกางเกงขาสั้นสีขาว บริเวณขมับซ้ายถูกอาวุธปืนจ่อยิงระยะใกล้จำนวน 1 นัด นอนเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุโดยมีผ้าห่มคลุมร่างอย่างดี ขณะที่ห่างกันไปไม่มากนักพบร่าง นายธเนศ ใจสบาย อายุ 62 ปี ซึ่งรู้จักกันในนามพ่อเลี้ยงเสา นักธุรกิจการค้าชายแดนไทย-เมียนมา ชื่อดังตกอยู่ในสภาพมีบาดแผลถูกจ่อยิงที่ขมับขวาจำนวน 1 นัดอาการสาหัส นอนจมกองเลือดในห้องนอน ใกล้กันยังพบอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 11 มม. จำนวน 1 กระบอก ตกอยู่ เจ้าหน้าที่และชาวบ้านต้องรีบนำตัวพ่อเลี้ยงเสาส่งโรงพยาบาลแม่สอด ขณะนี้อาการยังไม่พ้นขีดอันตรายแพทย์ต้องดูอาการอย่างใกล้ชิด

จากนั้นเจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงในการเก็บวัตถุพยานหลักฐานในบ้านเกิดเหตุอย่างละเอียดก่อนตำรวจสั่งการให้สมาคมกู้ภัยพระธาตุผาแดงนำศพผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลแม่สอดท่ามกลางความเสียใจของชาวบ้านจำนวนมากที่มามุงดูเหตุการณ์สลดในครั้งนี้

จากการสอบสวนญาติและกลุ่มเพื่อนผู้เสียชีวิตให้การกับตำรวจเบื้องต้นว่า นายเสาหรือพ่อเลี้ยงเสา กับนางอุบลหรือแม่เลี้ยงโม ทั้งสองเป็นสามีภรรยาอยู่กินมานานกันหลายสิบปี มีบุตรชายสองคน ซึ่งสองสามีภรรยาคู่นี้เป็นนักธุรกิจชื่อดังในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมาและพักอาศัยอยู่กันสองคนในบ้านพักตากอากาศหลังนี้มานาน จนหลายเดือนที่ผ่านมาพ่อเลี้ยงเสาและแม่เลี้ยงโม ได้ร่วมลงทุนทำธุรกิจน้ำมันระหว่างชายแดนและธุรกิจอื่นร่วมด้วย แต่เกิดปัญหาทางธุรกิจมีปัญหาจนเกิดหนี้สินหลายล้านบาท จนทั้งสองเกิดอาการเครียดเขียนจดหมายลาตาย

ก่อนช่วงเช้าวันนี้พ่อเลี้ยงเสาจะใช้อาวุธปืนยิงภรรยาเสียชีวิต พร้อมใช้ปืนกระบอกเดียวกันจ่อยิงตนเองหมายจะฆ่าตัวตายตามแต่อากาสาหัส ขณะที่นายจ่อ ซึ่งเป็นคนงานที่พบเหตุการณ์คนแรกเล่าให้ตำรวจฟังว่า ก่อเกิดเหตุพ่อเลี้ยงเสาสั่งให้ตนเองมาหาที่บ้านพักในช่วงเช้าซึ่งตนเองก็รู้สึกแปลกใจ พอช่วงเช้าตนได้ตะโกนเรียกพ่อเสี้ยงเสาแต่ไม่มีเสียงตอบรับออกมาจากคนในบ้านจึงสงสัย ประกอบกับประตูรั้วบ้านก็ไม่ได้ปิด ตนจึงเดินเข้าไปในบ้านก็พบพ่อเลี้ยงเสากำลังล้างเลือดที่ไหลเต็มใบหน้าก่อนจะสลบไป ส่วนแม่เลี้ยงโมเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้แล้ว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานสาเหตุมูลเหตุของคดีนี้มาจากความเครียดปัญหาหนี้สินจำนวนมากจากธุรกิจประสบปัญหาขาดทุนจนสองสามีภรรยาคู่นี้ตัดสินใจตกลงที่จะสมัครใจทำร้ายตนเองจนเสียชีวิตและทางญาติของผู้เสียชีวิตก็ไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต