ย้ายแล้ว 3 ตร.ไซเบอร์ อ้างเป็น ตร.คลองหลวง รีด 3 หมื่นรถติดป้ายทะเบียนปลอม
พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สั่งย้าย 3 ตำรวจไซเบอร์เข้ากรุ หลังถูกแจ้ง 3 ข้อหา ปมร่วมกันรีดทรัพย์ 3 หมื่นบาท รถติดป้ายทะเบียนปลอม พร้อมทั้งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2566 จากกรณีที่เครือข่ายเพื่อนตำรวจได้เปิดเผยข้อความตำรวจ สอท.1 อ้างเป็นตำรวจ ภ.จว.ปทุมธานี 3 คน ทำตัวเป็นโจรอุ้มผู้เสียหายไปตบทรัพย์ เลวแบบนี้มันต้องแฉให้หมดปล่อยไว้เป็นภัยต่อสังคม ซึ่งทางผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดขึ้นในพื้นที่ สภ.คลองหลวง
ทางด้าน พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง กล่าวว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 66 เวลาประมาณ 14.00 น. ในห้างสรรพสินค้าย่านนวนคร ได้มีชาย 3 คน ซึ่งเป็นคำให้การของผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง นำตัวผู้เสียหายพร้อมรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน 8 กฎ 6681 กรุงเทพมหานคร นำตัวมาข้าง สภ.คลองหลวง และบอกว่าเป็นรถติดป้ายทะเบียนปลอม และมีการติดไฟแนนซ์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง เรียกรับเงินจำนวน 3 หมื่นบาท โดยผู้เสียหายได้ไปกดเงินที่ตู้ ATM แห่งหนึ่งใกล้เคียง สภ.คลองหลวง และให้นำเงินไปวางไว้ในรถ จากนั้นก็ได้ให้ผู้เสียหายกลับบ้านไปพร้อมกับทางชายทั้ง 3 คนก็ได้ขับรถ และเงินสดทั้ง 3 หมื่นไป
จากการตรวจสอบแล้วพบว่าชายทั้ง 3 คนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง แต่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง และตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้ว ส่วนรถยนต์นั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำมาส่งคืนตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาแล้ว ต้องเข้าใจก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยเป็นผู้บริสุทธิ์ ก่อนจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา พยานหลักฐาน และคำให้การของผู้เสียหายเอง ในส่วนของการดำเนินการนั้น เมื่อช่วงเช้าก็ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นและสอบปากคำผู้เสียหาย พร้อมทั้งพยาน และสามารถแจ้งข้อกล่าวว่าหาเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นาย เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับสินบน ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรรโชกทรัพย์
ส่วนผู้เสียหายนั้นก็มีความผิดเรื่องการสวมทะเบียนรถและดำเนินคดีกับผู้เสียหายอีกส่วนหนึ่ง และมีการตรวจยึดรถ ซึ่งสอดคล้องกับผู้เสียหายเอง และจะได้นำส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 อีกครั้ง ส่วนเรื่องเงิน 3 หมื่นนั้น ซึ่งทางผู้ต้องหาทั้ง 3 คนอ้างว่าเงินทั้ง 3 หมื่นวางอยู่ในรถและทางพนักงานสอบสวนได้ตรวจยึดเอาไว้แล้ว และแยกกันระหว่างเงินสดกับเงิน 3 หมื่น ซึ่งมีบางอย่างก็สอดคล้องกันและมีบางอย่างก็ไม่สอดคล้องกัน ซึ่งขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้เร่งสอบปากคำ และส่ง ป.ป.ช.ภายใน 30 วัน
โดยจากบันทึกที่ตำรวจทั้งสามนายได้ทำเอกสารตรวจยึด โดยในจำนวนนี้มีรถยนต์ และเงินสดสามหมื่นบาท โดยเงินวางอยู่ภายในรถยนต์ โดยข้อเท็จจริงต่างคนต่างให้การบางข้อเท็จจริงมีการให้การสอดคล้องต้องกันจะสามารถให้ข้อมูลได้ เช่น เหตุการณ์มีการตำรวจ 3 นายไปเรียกผู้เสียหายจริง ไปนำตัวผู้เสียหายมาคุยข้างสภ.คลองหลวงจริง ข้อมูลเกี่ยวกับเงินสด 30,000 บาทมีจริง ฝ่ายผู้เสียหายอ้างว่ากดมาให้ตำรวจ ส่วนตำรวจบอกว่าตรวจยึดรถยนต์แล้วพบเงินภายในรถ และที่นำรถมาส่งให้พนักงานสอบสวนช้า เพราะต้องนำรถไปตรวจสอบและบันทึกที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สอท. แล้วส่งกลับมาอีกครั้งหนึ่งอันนี้ข้อเท็จจริงบางอย่างไม่ตรงกัน
ส่วนทางด้านผู้สื่อข่าวทราบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นายนั้น ยศพันตำรวจตรี 2 คน และยศร้อยตำรวจตรี 1 คน สังกัดศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ (สอท.)
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 17 ธันวาคม 2566 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. เผยถีงกรณีที่มีตำรวจในสังกัด บช.สอท.ระดับสารวัตรและรองสารวัตร 3 นาย ประกอบด้วย พ.ต.ต.บุญทัน พันธ์จันทร์ สว.กลุ่มงานสนับสนุนทางไซเบอร์ บก.ตอท. พ.ต.ต.ครรชิต จันท่าม่วง สว.กก.4 บก.สอท.1 และ ร.ต.ต.กำจัด บูชา รอง สว.กก.4 บก.สอท.1 ถูกกล่าวหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ในพื้นที่ของ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมานั้น
ทั้งนี้ได้สั่งการให้นายตำรวจทั้ง 3 นายให้มาประจำที่ ศปก.สอท. พร้อมทั้งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง อีกทั้งให้ทางผู้บังคับบัญชาในสังกัดพานายตำรวจทั้ง 3 นาย ไปพบพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง เจ้าของคดีเพื่อให้ปากคำแล้ว สำหรับในเรื่องนี้คงต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากตรวจสอบว่านายตำรวจทั้ง 3 นาย กระทำผิดจริงจะดำเนินการในขั้นเฉียบขาด.