ข่าวทั่วไป

รวบแก๊งคอลฯ สวมรอยตำรวจ ยัดฟอกเงิน หลอกเหยื่อโอนเงินกว่า 3 แสนบาท

ตำรวจไซเบอร์ บุกรวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปลอมเป็นตำรวจ “สภ.แหลมฉบัง” อ้างเป็น “ร.ต.อ.-ผกก.” ยัดคดีฟอกเงินเหยื่อ หลอกโอนเงินกว่า 3 แสนบาท ด้านเจ้าตัวปฏิเสธ แจงถูกสวมบัตรประชาชน

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.66 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 สั่งการให้ พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.2 บก.สอท.4 พ.ต.ท.พร้อมพล นิตย์วิบูลย์ สว.กก.2 บก.สอท.4 นำกำลังเจ้าจับกุม น.ส.สุพัตรา จันทร์สวัสดิ์ อายุ 22 ปี ชาว จ.ราชบุรี ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยจับกุมได้ในพื้นที่หมู่ 10 ต.ดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรี

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 พ.ค.65 มีผู้เสียหายได้รับโทรศัพท์จากบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง แจ้งว่าผู้เสียหายมีชื่อเป็นผู้ส่งพัสดุไปยัง จ.เชียงราย โดยอ้างว่าข้างในพัสดุประกอบด้วยหนังสือเดินทางของชาวพม่า จำนวน 12 เล่ม, บัตรเอทีเอ็ม 9 ใบ, สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้เสียหาย จำนวน 3 เล่ม, และสมุดบัญชีเงินฝากของผู้อื่นจำนวน 6 เล่ม ถูกอายัดไว้ที่ศุลกากรแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ซึ่งผิดกฎหมายและจะต้องถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ

โดยหลอกให้ผู้เสียหายเพิ่มเพื่อนในแอปพลิเคชั่นไลน์ ชื่อ “สภ.แหลมฉบัง” โดยอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยศ ร.ต.อ. ประจำ สภ.แหลมฉบัง จากนั้นได้ให้ผู้เสียหายพูดคุยวีดีโอคอลทางไลน์กับชายอีกคนที่อ้างว่าเป็น ผกก.สภ.แหลมฉบัง แล้วส่งรูปภาพถ่ายของชายวัยกลางคนว่า มีคดีข้อหาคดีฟอกเงินและค้ายาเสพติด โดยคนร้ายอ้างว่าผู้เสียหายมีเงินหมุนเวียนอยู่ในบัญชี 3 บัญชี และแจ้งว่าเพื่อความบริสุทธิ์ใจ ให้โอนเงินในบัญชีทั้งหมดของผู้เสียมายังบัญชีธนาคาร ชื่อ บัญชี “น.ส.สุพัตรา” ทั้งหมดเพื่อตรวจสอบ เมื่อทำการตรวจสอบเสร็จแล้ว ก็จะทำการโอนคืนให้แก่ผู้เสียหายต่อไป เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้ดำเนินการโอนเงินไปยังหมายเลขบัญชีดังกล่าว เป็นจำนวนเงินกว่า 3 แสนบาท หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อกับไลน์ชื่อ “สภ.แหลมฉบัง” ได้อีกเลย จึงคิดว่าถูกพวกมิจฉาชีพหลอก จึงเดินทางมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.4 ได้สืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหามีหมายจับติดตัวทั้งหมด 3 หมาย ได้หลบหนีมาอยู่ที่บ้านเช่าในจังหวัดราชบุรี จึงได้เข้าไปตรวจสอบและจับกุม

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับว่า คือบุคคลตามหมายจับนี้จริง แต่ไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น เนื่องจากเมื่อปี 65 แม่ตนป่วยต้องการใช้ถังออกซิเจนเพื่อช่วยหายใจ มีคนรู้จักรับว่าจะช่วยเป็นธุระจัดหาถังออกซิเจนให้ แต่ต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ป่วยและญาติผู้ป่วย ไปแสดงเป็นหลักฐานในการของยืมถังออกซิเจนจากโรงพยาบาล เนื่องจากช่วงนั้นแม่ของตนป่วยหนัก ตนจึงตัดสินใจนำบัตรประจำตัวประชาชนของตนและแม่ เพื่อให้ช่วยดำเนินการ ซึ่งมีแค่เหตุการณ์นั้นเหตุการเดียวที่นำบัตรไปให้แก่บุคคลอื่น และไม่เคยเปิดบัญชีธนาคารให้แก่ผู้อื่นเลย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ ได้ทำการสืบสวนหาตัวผู้ร่วมกระทำความผิด ก่อนคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

 

Tags
ตำรวจไซเบอร์บัญชีม้าหลอกโอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เรื่องอื่นๆ แนะนำต้องดู

Back to top button