เผยผลชันสูตร “พลายเดือน” ลูกช้างป่าพลัดหลง พบหัวใจบวมน้ำ ทางเดินอาหารผิดปกติ
สัตวแพทย์ เผยผลชันสูตรเบื้องต้นของ “พลายเดือน” ลูกช้างป่าพลัดหลง พบความผิดปกติหลายจุด พร้อมเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อ ส่งตรวจเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุการตายที่แน่ชัด
จากกรณีที่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้โพสต์ข่าวเศร้าของน้องเดือน ลูกช้างป่าพลัดหลง ที่ได้จากไปอย่างสงบ โดยรอให้สัตวแพทย์ชันสูตร เพื่อระบุสาเหตุการตาย ดังที่นำเสนอไปแล้วนั้น (อาลัย “น้องเดือน” ลูกช้างป่าพลัดหลง จากไปอย่างสงบแล้ว)
ล่าสุด นางสาวชนัญญา กาญจนสาขา หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าช่องกล่ำบน ได้รายงานถึงกรณีการเสียชีวิตของลูกช้างป่า “พลายเดือน” ที่เบื้องต้นทีมสัตวแพทย์และสัตวบาล สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าช่องกล่ำบน ร่วมกับ ทีมสัตวแพทย์และสัตวบาล กลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า และศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) ได้ทำการรักษาและอนุบาล “พลายเดือน” อย่างใกล้ชิด
โดยลูกช้างป่าตัวดังกล่าวได้รับการรักษาตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. 66 ด้วยอาการขาหลังหักทั้งสองข้าง ร่วมกับมีอาการท้องเสียมาตั้งแต่หลังเข้าเฝือกตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย. 66 กระทั่งเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 เวลา 04.28 น. ลูกช้างเริ่มมีอาการหายใจช้าลง มีภาวะหัวใจหยุดเต้น สัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าช่วยเหลือปฐมพยาบาลเร่งด่วน
โดยการทำ CPR เพื่อกระตุ้นการหายใจ ลูกช้างป่าไม่มีการตอบสนองต่อการช่วยชีวิต และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทางทีมสัตวแพทย์จึงได้ทำเข้าทำการพิสูจน์ซากลูกช้าง เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิต โดยเริ่มจากทำการเอกซเรย์ ขาหลังทั้งสองข้าง ที่ทำการรักษาด้วยการเข้าเฝือกมานานเกือบ 1 เดือน ก่อนที่จะทำการผ่าพิสูจน์อวัยวะต่างๆ ในร่างกายอย่างละเอียด
จากการผ่าชันสูตรซากพบความผิดปกติ พบว่าผิวหนังลำตัวไม่พบร่องรอยบาดแผล หรือได้รับบาดเจ็บใดๆ พบรูที่สะดือที่มีก้อนหนองอยู่ภายใน และขาหนีบขาหลังมีแผลกดทับ และแผลฉีกขาดถึงระดับกล้ามเนื้อ ภายในช่องปากและลิ้นมีสีปกติ เยื่อบุตามีสีแดง ปอดมีการคั่งของเลือด เนื้อปอดมีสีแดง
หัวใจมีการบวมน้ำของผนังเยื่อหุ้มหัวใจ ตับมีลักษณะบวม (ขอบตับมน) มีการคั่งของเลือด ม้ามพบจุดจ้ำเลือด ไตเยื่อหุ้มไตลอกออกยาก ลำไส้มีการบวมน้ำเล็กน้อย พบการอักเสบเกือบตลอดทางเดินอาหาร มีจุดเลือดออกทั้งภายในและภายนอกทางเดินอาหาร ไม่มีน้ำในช่องท้องกล้ามเนื้อขาลีบ พบถุงหนองบริเวณจุดที่หัก ของกระดูกขาข้างซ้าย พบก้อนหนองบริเวณจุด ที่หักของกระดูกขาข้างขวาพื้นเท้าขาหลังเปื่อยทั้ง 2 ข้าง เมื่อเปิดผ่าด้านในพบการอักเสบของกล้ามเนื้อ
ทั้งนี้ ทางสัตวแพทย์ยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุที่ทำให้ลูกช้างตัวนี้ ล้มลงได้อย่างชัดเจน จึงได้ทำการเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อของอวัยวะส่วนต่างๆ กลับไปตรวจพิสูจน์ยังห้องปฏิบัติการ เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แน่ชัดต่อไป เนื่องจากซากลูกช้างป่าไม่สามารถเก็บรักษาไว้ได้ ทางคณะเจ้าหน้าที่จึงทำพิธีทางศาสนาก่อนฝังกลบซากลูกช้างป่าตัวดังกล่าว พร้อมทั้งโรยปูนขาวเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรค ตามหลักวิชาการ
“พลายเดือน” เป็นลูกช้างป่าเพศผู้ ที่พลัดหลงจากโขลง หลังมีชาวบ้านพบที่ไร่มันสำปะหลังท้ายหมู่บ้านตลิ่งชัน ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา จากนั้นทีมสัตวแพทย์กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ตรวจพบว่า ขาหลังได้รับบาดเจ็บกระดูกหักทั้งสองข้าง จนต้องนำตัวไปทำการรักษาที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทับลาน ที่ ทล.08 (ตลิ่งชัน) เป็นเวลาเกือบ 1 เดือน โดยมีทีมสัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน และกลุ่มจิตอาสา ที่ช่วยดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง.
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช