ทีมตํารวจ ตม. ทลายบ่อน “จีนเทา” วีไอพี ห้องหรูชั้น 8 โรงแรมในนนทบุรี ยึดเงิน 3.5 ล้าน
ตม.บุกทลายบ่อนพนันหรูขนาดใหญ่ในโรงแรมกลางเมืองนนท์ เปิดเล่นกันโจ๋งครึ่ม 24 ชั่วโมง บนชั้น 8 และดาดฟ้า ตกแต่งสถานที่หรูหรา ได้มาตรฐานคล้ายกาสิโนในต่างประเทศ มีพนักงานแต่งยูนิฟอร์มคอยให้บริการ ยึดอุปกรณ์เล่นพนัน ทั้งโต๊ะบาคารา ตู้สลอต โต๊ะยิงปลา ชิปแลกเงินหลายสิบล้านบาท เงินสด 3.5 ล้านบาท และปืนกล็อกพร้อมกระสุนนับร้อยนัด ผู้ต้องหาทั้งหมด 49 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน “ผบ.ตร.” มอบหมายให้ “บิ๊กต่าย” สอบ 5 เสือโรงพักท้องที่ปล่อยปละละเลยหรือไม่ หากผิดจริงเด้งเข้ากรุฟันไม่เลี้ยง
จับบ่อนพนันหรูของกลุ่มจีนเทา เปิดเล่นโจ๋งครึ่มในโรงแรมใหญ่ริมถนนกลางเมืองนนทบุรี ล็อกนักพนันชาวจีนและพนักงานบ่อนร่วมครึ่งร้อย เปิดเผยเมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง นำกำลังจับกุมบ่อนการพนันในโรงแรมย่านงามวงศ์วาน ได้นักพนันชาวจีนกว่า 20 ราย ยึดอุปกรณ์การเล่น และทรัพย์สินกว่า 3.5 ล้านบาทว่า ทราบเรื่องแล้ว แต่ในรายละเอียดยังไม่ทราบว่ามีบุคคลใดเกี่ยวข้องบ้าง ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. เข้าไปตรวจสอบรายละเอียดและที่มาที่ไปของบ่อน รวมถึงประเด็นที่ระบุว่าเป็นชาวต่างชาติมาลักลอบเปิดบ่อน ให้รีบรายงานผลการตรวจสอบภายในวันนี้ หากพบมีมูลความผิดจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีจเรตำรวจแห่งชาติร่วมตรวจสอบด้วย และจะดำเนิน คดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกราย
“ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูล เป็นการร่วมกันจับหรือหน่วยนอกจับกุม ต้องขอเวลาตรวจสอบก่อน ส่วนการพิจารณาโยกย้าย 5 เสือโรงพักที่รับผิดชอบพื้นที่ ขณะนี้ยังไม่ได้ออกคำสั่งโยกย้ายให้ไปช่วยราชการ เนื่องจากต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจนก่อน แต่หากพบว่าพื้นที่ใดมีการปล่อยปละละเลย หรือพบมีมูลความผิดจริง สามารถพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายได้โดยไม่ต้องรอวาระการแต่งตั้งโยกย้ายประจำปี เนื่องจากที่ผ่านมามีนโยบายเน้นย้ำให้ตรวจตราเรื่องอบายมุขในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกับหน่วยงานฝ่ายปกครอง ร่วมกันกวดขันอบายมุขทุกประเภท” ผบ.ตร.กล่าว
คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 28 พ.ย. พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. สั่งการให้ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล รอง ผบก.สส.สตม. นำกำลังตำรวจ บก.สส.สตม. นำหมายค้นศาลอาญาที่ 1469/2566 ลงวันที่ 28 พ.ย.66 เข้าตรวจค้นโรงแรมไอวิช (IWISH) เลขที่ 441/5 ถนนงามวงศ์วาน ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี หลังสืบทราบว่าบริเวณชั้น 8 เปิดเป็นบ่อนบาคาราขนาดใหญ่ ตกแต่งหรูหรา
ขณะเข้าตรวจค้นมี น.ส.พิชญา ชนะพันธ์ แสดงตัวเป็นผู้จัดการโรงแรม นำตำรวจตรวจค้นชั้น 6, 7 และ 8 แต่ขึ้นไปไม่ได้ เนื่องจากจะต้องใช้คีย์การ์ดเข้าแต่ละชั้นถึงจะสามารถขึ้นไปได้ ตำรวจต้องเดินขึ้นบันไดไปที่ชั้น 8 จากการเข้าตรวจค้นพบป้ายชื่อ “Noah Entertainment Place” เมื่อเข้าไปภายในห้อง มีพนักงานรักษาความปลอดภัย 2 คน พนักงานแคชเชียร์ 1 คน และพนักงานหญิงประจำโต๊ะพนันบาคารา 16 คน แต่งชุดยูนิฟอร์มสีแดง นอกจากนี้ยังมีพนักงานเสิร์ฟอาหารให้กับผู้เล่นพนัน 3 คน มีนักพนันนั่งเล่นอยู่ที่โต๊ะพนันบาคารา 3 คน นั่งเล่นอยู่ที่โต๊ะพนันยิงปลา 2 คน และมีบุคคลที่เชื่อว่าเป็นผู้เข้าเล่นพนันนั่งรับประทานอาหารอยู่ด้านข้างอีก 11 คน
ต่อมาขึ้นไปตรวจค้นดาดฟ้าชั้น 9 เป็นโซนรับประทานอาหาร พบชายชาวจีน 13 คน นั่งดื่มกินพูดคุยและสูบบุหรี่ เจ้าหน้าที่เชื่อว่าทั้งหมดได้วิ่งหลบหนีจากชั้น 8 ขึ้นมาที่ชั้น 9 จากนั้นได้ให้นายเซียน ชาวจีน ผู้ดูแลบ่อน เปิดตู้เซฟภายในบ่อนเพื่อตรวจสอบสิ่งผิดกฎหมาย พบปืนกล็อก 9 มม. 2 กระบอก และกระสุนปืน 9 มม. 100 นัด ตรวจยึดโต๊ะบาคารา 6 โต๊ะ ตู้สลอต 6 ตู้ โต๊ะยิงปลา 1 ตัว ไพ่หลายสำรับ ชิปแลกเงินหลายสิบล้านบาท คอมพิวเตอร์ เงินสด 3.5 ล้านบาท จับกุมพนักงานประจำบ่อนพนัน 23 คน เป็นชาวลาว พม่า คนไทย และบุคคลไม่มีสัญชาติ จับนักพนันชาวจีนที่กำลังนั่งเล่นการพนัน 13 คน และควบคุมตัวคนสัญชาติจีน สิงคโปร์และแคนาดา ที่นั่งกินข้าวและสูบบุรี่อยู่บนชั้นดาดฟ้าอีก 13 คน ควบคุมตัวลงมา รวมผู้ต้องหาทั้งหมด 49 คน สอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ อ้างเข้ามาในบ่อนจริงแต่ไม่ได้เล่นการพนัน 26 ราย อีก 23 ราย ให้การรับสารภาพอ้างเป็นพนักงานประจำบ่อนจริง
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากชุดสืบสวน ตำรวจตรวจค้นเข้าเมือง สืบทราบว่าที่โรงแรมดังกล่าวแอบลักลอบเปิดบ่อนการพนันให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาเล่นการพนัน ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นจับกุม ได้นักพนันและพนักงานทั้งหมด 49 คน พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ดำเนินคดี ข้อหา “ร่วมกันลักลอบเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต (พนักงาน)” พนักงานสอบสวนจะนำตัวผู้ต้องหาที่ให้การรับสารภาพส่งศาลแขวงนนทบุรีดำเนินคดีต่อไป
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจชาวจีนและนักท่องเที่ยวที่มีฐานะร่ำรวย ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้าไปเล่นพนันหลายชนิด เจ้าหน้าที่ทราบข้อมูลว่าบ่อนพนันแห่งนี้เปิดให้บริการมาเป็นระยะเวลานานแล้ว มีเจ้าของบ่อนเป็นกลุ่มทุนจีนเทา ร่วมกับคนไทย มีการเคลียร์กับเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน ทำให้กล้าเปิดเย้ยกฎหมายอยู่ในโรงแรมระดับ 3 ดาว ตั้งอยู่ริมถนนสายหลักใกล้แยกพงษ์เพชร ตกแต่งภายในบ่อนหรูหรา มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน คล้ายกาสิโนในต่างประเทศ ว่าจ้างพนักงานทั้งคนไทยและชาวต่างด้าว แต่งชุดยูนิฟอร์มแยกออกจากนักพนันอย่างชัดเจน ให้บริการ 24 ชั่วโมง ที่ผ่านมาไม่เคยถูกเจ้าหน้าที่หน่วยงานใดเข้าจับกุมมาก่อน กระทั่งชุดสืบฯ ตม.ได้เบาะแสจากนักท่องเที่ยวชาวจีน และรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับก่อนเข้าจับกุมในที่สุด
ด้าน พ.ต.อ.ธนะเมศฐ์ วิจิตรจริยา ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ กล่าวว่า ตำรวจ สตม.ได้มาประสานตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ นำกำลังร่วมกันจับกุมบ่อนการพนัน เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบลักลอบเล่นพนันจริง จับกุมได้ทั้งนักพนันและพนักงาน ก่อนหน้านี้ ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ เพิ่งจะไปตรวจสอบเมื่อเดือนที่แล้วพบยังไม่มีการเล่นพนัน แต่เมื่อวานพบเป็นบ่อนขนาดใหญ่ จับกุมผู้ต้องหามีทั้งคนจีน สิงคโปร์ แคนาดา เมียนมา ลาว และพนักงานที่ให้บริการไม่มีสัญชาติไทย รวมทั้งหมด 49 คน ผู้ต้องหาที่ถูกจับให้การปฏิเสธ 26 คน เพราะอยู่ในที่เดียวกัน เป็นโซนกินข้าว รวมกับห้องเล่นพนัน จะต้องให้ศาลพิจารณาว่าที่อยู่ในห้องเดียวกันจะเข้าข่ายผิดหรือไม่
“บ่อนแห่งนี้เป็นการเปิดเล่นในโรงแรม บริเวณชั้นบนที่ปิดกั้นไม่ให้คนนอกเข้าได้ หากใครจะเข้าต้องใช้คีย์การ์ด ตำรวจขึ้นไปตรวจสอบเมื่อวาน ชั้น 1 มีบุคคลไม่มีสัญชาติไทย 8 คน ที่ชั้น 6 เป็นห้องเก็บของ มีคนอยู่ 3 คน ส่วนชั้น 7 เปิดเป็นร้านนวด และชั้น 8 เปิดเป็นที่เล่นการพนัน และเป็นห้องรับประทานอาหาร จากการตรวจค้นมีสุราหนีภาษีด้วย จากนั้นได้ไปตรวจสอบบริเวณใกล้เคียง พบมีชาวจีนอยู่หลายราย ทั้งคนจีนที่มากับทัวร์จีน และคนจีนที่วอล์กอินเข้ามาภายในโรงแรม ส่วนกรณีเรื่องการเช่าพื้นที่เปิดบ่อนของโรงแรม ตำรวจจะรอทางโรงแรมชี้แจง และให้นำหลักฐานว่าชั้น 6-7-8 ได้เช่าพื้นที่เพื่อทำอะไร ทำไมถึงได้ออกแบบมาเป็นบ่อน พร้อมกันนี้ได้ประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนนทบุรี นำล่ามแปลภาษามาร่วมสอบสวนผู้ต้องหาคนจีนด้วย ผู้ต้องหาที่รับสารภาพจะนำฝากขัง ส่วนผู้ที่ปฏิเสธต้องทำสำนวนรวบรวมพยานหลักฐานอีกครั้ง” ผกก.สภ.รัตนธิเบศร์กล่าว