ด้าน พ.ต.อ.พงษ์ธรรศ เจริญปรีชญาพงษ์ ผกก.สภ.พร้าว เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเจ้าของสวนลำไยเบื้องต้นเชื่อว่าเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของคนงานที่เพิ่งรับมาทำงาน มีการผสมสารเคมีที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาไวไฟ และในตอนนี้ได้แจ้ง 3 ข้อหาแก่เจ้าของสวน คือ 1.ข้อหามีสารเคมีอันตรายไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ยุทธภัณฑ์ 2.ข้อหากระทำการโดยประมาณทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสและถึงแก่ความตาย 3. ข้อหาให้ที่พักพิงและให้อาชีพแก่แรงงานต่างด้าวโดยไม่ได้รับอนุญาต

จากการตรวจสอบแล้วพบว่ามีแรงงานต่างด้าวเสียชีวิต 2 รายส่วนอีกรายนั้นเป็นน้องสาว ขณะที่ ผกก.สภ.พร้าว เปิดเผยอีกว่า สารเร่งลำไยนี้ปกติชาวสวนลำไยจะซื้อมาแล้วนำไปใส่ต้นลำไยเลยจะไม่เก็บไว้ ซึ่งคาดว่าเจ้าของสวนรายนี้นาจะมีการซื้อมาเก็บไว้จำนวนมากจนเกิดระเบิด ส่วนในเรื่องของการเข้มงวดกวดขันร้านจำหน่ายสารเคมีชนิดนี้ทางตำรวจก็ได้เจ้าตรวจสอบร่วมกับเกษตรอำเภอพร้าวพร้อมให้คำแนะนำ ให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้สารแก่เกษตรกรชาวสวนอยู่เสมอ และร้านที่จำหน่ายสารชนิดนี้ในพื้นที่อำเภอพร้าวนั้นก็มีใบอนุญาตจำหน่ายถูกต้อง

ขณะที่นายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายวรุตม์  วิศิษฏ์ศิลป์ นายอำเภอพร้าว  และป้องกันจังหวัดเชียงใหม่, สนง.ปภ.จ.เชียงใหม่ สาขาเชียงดาว, รพ.พร้าว พฐ.เชียงใหม่, เกษตรอำเภอพร้าว, อบต.แม่แวน, กู้ภัยพร้าววังหิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมนี้ได้กำชับให้ใช้กลไกท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาคมฯ ต่างๆ ในการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ในการใช้สารเคมีให้ปลอดภัยกับเกษตรกร