ชาวบ้านที่ไพศาลี นครสวรรค์ เตรียมทอดกฐิน โดยมีชื่อหลวงพ่อพัฒน์ วัดธารทหาร เกจิดังเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และป๋อง สุพรรณ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส แต่รู้ข่าวการมรณภาพของหลวงพ่อก่อน ทำให้ต่างเศร้าเสียใจ ขณะที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องประชุม เตรียมรับร่างหลวงพ่อทำพิธีพระราชทานน้ำสรงศพ ในวันอาทิตย์ที่ 26 พ.ย.นี้
ที่วัดธารทหาร หรือวัดห้วยด้วน อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ หลังการมรณภาพของพระราชมงคลวัชราจารย์ หรือ หลวงพ่อพัฒน์ ปุญฺญกาโม เจ้าอาวาสวัดธารทหาร ในวันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 เวลาประมาณ 01.35 น. ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ด้วยอาการอันสงบ สิริอายุ 101 ปี 77 พรรษา
บรรดาเซียนพระและนักสะสมวัตถุมงคล หลังทราบข่าวหลวงพ่อพัฒน์ ต่างพากันมาจับจองและเช่าบูชาวัตถุมงคลของทางวัดอย่างคึกคัก รวมถึงแผงพระรอบๆ บริเวณวัดห้วยด้วน มีนักนิยมพระเครื่องและนักสะสมต่างออกมาหาวัตถุมงคลของหลวงพ่อพัฒน์เพื่อเก็บเป็นที่ระลึกและสะสมเป็นสินทรัพย์ เก็บไว้เก็งกำไรทำให้วัตถุมงคลของหลวงพ่อรุ่นต่างๆ กลับมาคึกคักอีกครั้ง
นายภคพล ครองสิน นักสะสมวัตถุมงคลของหลวงพ่อพัฒน์ได้บอกทีมข่าวว่าวัตถุมงคลของหลวงพ่อดีทุกรุ่น แต่ที่นิยมจะเป็นเหรียญรุ่นแรกสร้างปี 2535 มีราคาสูง คาดว่าราคาจะขยับขึ้นอย่างแน่นอนรวมถึงรุ่นอื่นที่นักสะสมหันมาเก็บหลังจากสิ้นหลวงพ่อ ทำให้ราคาขยับขึ้น
ส่วนภายในวัด มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ กันช่วยกันทำความสะอาดบริเวณลานวัด เคลื่อนย้ายสิ่งของเครื่องใช้ของหลวงพ่อพัฒน์ เพื่อเตรียมพิธีรับร่างของหลวงพ่อมาทำพิธีทางศาสนา โดยในกุฏิ 100 ปี ด้านบนมีการประชุมหารือของเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ นายอำเภอหนองบัว เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรหนองบัว เกี่ยวกับกำหนดการนำร่างของหลวงพ่อพัฒน์กลับมายังวัด โดยคาดว่าจะเป็นในวันอาทิตย์ที่ 26 พ.ย.ในช่วงบ่าย
ทางด้านชาวบ้านร้านค้าต่างๆ เมื่อทราบว่าหลวงพ่อมรณภาพต่างรู้สึกเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมาก โดยคุณป้าพณิดา แม่ค้าขายกาแฟ กล่าวน้ำตาคลอเบ้าว่า ตนนับถือศรัทธาหลวงปู่มาตั้งแต่แรก จดจำคำสั่งสอนของหลวงปู่ตลอด อยากให้หลวงปู่หลับให้สบาย ไม่ต้องห่วงลูกหลาน หลวงปู่เคยสอนว่า “ไม่ต้องอยากได้อะไรจนเกินตัว เพราะเมื่อตายไปก็จะเอาอะไรไปไม่ได้” ส่วนคุณยายฝาง วัย 82 ปี แม่ค้าขายของหน้าวัด เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเป็นคนในพื้นที่เห็นหลวงพ่อพัฒน์ ตั้งแต่ท่านมาอยู่วัดห้วยด้วนประมาณปี 2512 ได้บูชาเหรียญหลวงพ่อพัฒน์กับแหวนหลวงพ่อ เวลาขายของไม่ดีก็จะอธิษฐานขอพรให้ของขายดี ขายหมดไวๆ ซึ่งก็เป็นอย่างที่ขอจริงๆ แต่ก็ยังเสียดายที่แหวนที่เช่ามาตอนนั้นราคา 200 บาท แต่ไม่รู้อะไรมาดลใจทำให้ตนปล่อยเช่าให้คนมาซื้อของไป ช่วงที่ได้แหวนมาใหม่ๆ ตนออกไปเก็บผักขายปรากฏว่าถูกผึ้งรุมต่อย ตามตัว พอผึ้งบินไปตนถอดแหวนพร้อมอธิษฐาน จากนั้นก็เอาแหวนไปทาตามจุดที่ผึ้งต่อยปรากฏว่า ไม่เจ็บไม่ปวดแต่อย่างใด อีกครั้งคือหลานตนถูกตะขาบกัด ตนก็จะเอาแหวนไปทาที่ถูกต่อย แต่หลานเป็นคนรุ่นใหม่ ไม่ยอมให้ทำ สุดท้ายทนความเจ็บปวดไม่ได้ เลยยอมให้เอาแหวนไปทา ปรากฏว่า อาการเจ็บปวดหายไปหมดเลย ยังเสียดายแหวนวงนั้นจนทุกวันนี้
สำหรับหลวงพ่อพัฒน์ เป็นพระเกจิอาจารย์ ชาว จ.นครสวรรค์ ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ มีความเมตตา คนส่วนใหญ่ จะรู้จักท่านเรื่องการสร้างวัตถุมงคล ทำให้มีผู้มาขอให้หลวงพ่อพัฒน์ปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆ และถวายเงินแด่หลวงพ่อพัฒน์เป็นเงินปีละหลายร้อยล้านบาท โดยหลวงพ่อพัฒน์จะนำเงินที่ได้รับถวาย ใช้ในการทำนุบำรุงศาสนาและให้หน่วยงานที่เข้ามาขอความช่วยเหลือเพื่อสาธารณประโยชน์ เช่น วัด โรงพยาบาล โรงเรียนต่างๆ หน่วยงานที่ขาดแคลนเครื่องใช้ต่างๆ โดยไม่นำเงินไปใช้ในทางส่วนตัว หลวงพ่อพัฒน์ เกิดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2465
ส่วนพิธีทางศาสนา กำหนดไว้ดังนี้ พระราชทานน้ำสรงศพ วันที่ 26 พฤศจิกายน 2566 เวลา 17.30 น. พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม เวลา 19.00 น. ณ ศาลา 100 ปี หลวงพ่อพัฒน์ วัดธารทหาร (วัดห้วยด้วน) อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์
พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม วันที่ 26 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2566 เวลา 18.30 น. และสวดพระอภิธรรม วันที่ 3 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป เวลา 18.30 น.
บำเพ็ญกุศล 7 วัน ในวันที่ 1 ธันวาคม 2566 เวลา 10.00 น. บำเพ็ญกุศล 50 วัน ในวันที่ 13 มกราคม 2567 เวลา 10.00 น. บำเพ็ญกุศล 100 วัน ในวันที่ 3 มีนาคม 2567 เวลา 10.00 น. ยังไม่กำหนดวันพระราชทานเพลิงศพ
ขณะเดียวกัน ที่วัดห้วยตะโก อำเภอไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์ ได้กำหนดให้การทำบุญทอดกฐิน โดยมีพระราชมงคลวัชราจารย์หรือ หลวงพ่อพัฒน์ เจ้าอาวาสวัดห้วยด้วน อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และมีนายเสมอ งิ้วงาม หรือป๋อง สุพรรณ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และจะนำรายได้ถวายกับหลวงพ่อพัฒน์ แต่เมื่อช่วงประมาณ 01.35 น.ของเช้าวันที่ 24 พ.ย. มีรายงานว่าหลวงพ่อพัฒน์ ได้มรณภาพ ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ทำให้บรรยากาศงานทอดกฐินที่มักจะมีความสนุกสนาน ถูกลดลงไปทันที เนื่องจากชาวบ้านที่ทราบข่าวการละสังขารของหลวงพ่อพัฒน์ต่างรู้สึกเศร้าเสียใจ แต่งานกฐินได้ถูกกำหนดไว้แล้ว ก็ต้องดำเนินต่อไป โดยภายในงานไม่พบ ป๋อง สุพรรณมาร่วมงานแต่อย่างใด คาดว่าจะอยู่กับหลวงพ่อพัฒน์ ที่กรุงเทพฯ โดยชาวบ้านลูกศิษย์ลูกหาที่มาร่วมงานกฐิน ต่างรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อทราบข่าวว่าหลวงพ่อมรณภาพ