ต่อมาเวลา 16.00 น.พนักงานสอบสวนนำพยานวัตถุของผู้ตายในที่เกิดเหตุมาตรวจสอบที่ สน.บางนา ประกอบด้วย ตู้เซฟของโรงแรม จำนวน 2 ตู้ คาดว่าภายในน่าจะมีทรัพย์สินสำคัญของผู้ตายอยู่ภายใน เนื่องจากมีรอยนิ้วมือเปื้อนเลือดติดอยู่บริเวณตู้เซฟ 1 ตู้ กระเป๋าเดินทางสีดำขนาดใหญ่ 1 ใบ ถังน้ำสีขาวขนาดเล็กเปื้อนเลือด 1 ใบ ถังน้ำมีฝาปิด 1 ใบ กระเป๋าหนังสีดำ 1 ใบ กระเป๋าใส่ของกลางรวมๆ ภายในมีม้วนอะลูมิเนียมฟอยล์สำหรับห่ออาหาร 3 ม้วน เตารีดไฟฟ้า 3 เครื่อง และซองวัตถุพยานอีก 2 ซอง เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิตว่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง

ภายหลังการประชุมนานร่วม 2 ชั่วโมง พล.ต.ต.ธีรเดช เปิดเผยว่า การตายของชาวไต้หวันรายนี้ผิดธรรมชาติ มีการจับมัดมือผู้ตายด้วยเทปกาวและนำมือไพล่หลัง แต่สาเหตุการเสียชีวิตจะเกิดจากอะไรนั้นต้องรอแพทย์นิติเวชเป็นผู้ให้คำตอบ ยอมรับว่าการตายครั้งนี้ผิดธรรมชาติ อีกทั้งผู้ตายเป็นชาวต่างชาติจึงมีความอ่อนไหวและเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ขณะนี้ได้แจ้งไปยังสถานกงสุลไต้หวันถึงสาเหตุการเสียชีวิตของชายคนดังกล่าวแล้ว เพื่อแจ้งญาติของผู้ตายต่อไป

จากการสืบสวนพบว่ามีกลุ่มชาวต่างชาติผิวสี 2 คน และชายชาวเอเชียยังไม่ทราบเชื้อชาติ 1 คน เข้ามาเกี่ยวข้องพัวพันกับผู้ตาย แต่จะเกี่ยวข้องพัวพันเรื่องอะไร ขณะนี้ยังให้คำตอบไม่ได้ อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน และได้มีการประชุมแบ่งหน้าที่การทำงานเพื่อความชัดเจนและให้คดีเดินหน้าอย่างรวดเร็ว ระหว่าง สืบนครบาล สืบนครบาล 5 และ สืบบางนา รวมถึง ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง

ส่วนกรณีที่มีกระแสว่าผู้ตายมีส่วนพัวพันกับคดีค้ามนุษย์และคดีฉ้อโกงในบ้านเกิดนั้น พล.ต.ต.ธีรเดช ระบุว่าเป็นคดีเก่าที่ผู้ตายได้รับโทษมาแล้ว แต่จะเป็นสาเหตุของการฆาตกรรมหรือไม่ ตำรวจไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้งเลย

ขณะนี้มีการลงพื้นที่เก็บภาพรายละเอียดในที่เกิดเหตุ รวมถึงลงพื้นที่ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด ตั้งแต่ที่ผู้ตายลงจากเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิว่ามีการไฟพบปะพูดคุยกับใครบ้าง ใครเกี่ยวข้องกับผู้ตายบ้าง และผู้ตายได้เดินไปไหนบ้างจนถึงที่พัก อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ช่วงค่ำของ วันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา มีหญิงสาวชาวไทย 2 คน เดินทางมาพบกับผู้ตายที่โรงแรมด้วย แต่จะเกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่ ขอให้ตำรวจทำงานก่อน

นอกจากนี้ ยังได้แบ่งงานให้ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เข้าไปดำเนินการตรวจสอบ ว่าผู้ตายเข้ามาในเมืองไทยด้วยวัตถุประสงค์อะไร เนื่องจากผู้ตายเดินทางเข้าไทยมาแล้วรวม 4 ครั้ง แต่การมาแต่ละครั้งใช้เวลาพักเพียงไม่กี่วันก่อนจะเดินทางกลับ เราต้องสืบให้ได้ว่าผู้ตายมาทำอะไรในประเทศ และในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมสรุปความคืบหน้าประจำวันอีกครั้ง ส่วนจะเป็นเวลาใด ขึ้นอยู่กับการทำงานของตำรวจ.