สำนัก อ.เอก ฝ่ามือพลังจิต ปิดเงียบ หลวงพ่อเชื่อได้อภิญญา ลั่นทองย่อมเป็นทอง
สำนัก “อาจารย์เอก ฝ่ามือพลังจิต” ยังปิดเงียบ ขณะที่แม่ค้ารถเร่ เผย “อาจารย์เอก” ใจดี รักษาตาให้ฟรี จับๆ เป่าๆ จากอักเสบ วันรุ่งขึ้นหายดี ส่วนหลวงพ่อจากวัดย่านฝั่งธนฯ เชื่อได้อภิญญา คนทั่วไปไม่มีใครเข้าใจ ลั่นทองย่อมเป็นทอง
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ที่โรงแรมศศิ นนทบุรี แอนด์ อพาร์ตเมนต์ เลขที่ 88/87 ถนนกาญจนาภิเษก ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี สถานที่ที่อาจารย์เอก ฝ่ามือพลังจิต หรือ นายกีรติ สมคิด อายุ 53 ปี มาเช่าลักลอบเปิดให้การรักษาผู้ป่วยโดยไม่ได้ขออนุญาต ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพได้เข้าตรวจค้นแล้ว เข้าแจ้งความดำเนินคดี 3 ข้อหา เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 66 ที่ผ่านมา
โดยสถานที่ดังกล่าวยังคงปิดไม่มีการรักษาใดๆ และไม่มีผู้ที่จะติดต่อเข้ามารักษาแต่อย่างใด
สอบถาม นางกนกวรรณ โอศิริ อายุ 55 ปี อาชีพขี่รถจักรยานยนต์เร่ขายขนมกาแฟน้ำส้มและกับข้าว กล่าวว่า มาขายของที่นี่ทุกวัน ลูกค้าเยอะมาก และยังมีลูกค้ามาถามว่าเปิดหรือยัง เพราะคนนัดเขาก็รอที่จะมา ตนเองก็เคยเป็นที่ตา ลักษณะมัวเหมือนมีก้อน อาจารย์เอกเขาก็จับๆ เป่าๆ ให้ วันนั้นก็หาย ทุกคนที่มารักษาก็หายกัน เดินได้ ทุกคนบอกว่าดีมาก และอาจารย์เป็นคนใจดีด้วย เคยซื้อขนมของตนให้เงินแล้วไม่เอาขนม
นางกนกวรรณ กล่าวอีกว่า ตอนที่รักษาให้ตน พี่เขาไม่เอาเงินกับตนเลย เขาช่วยรักษาอาการก็ดีขึ้น ตนจึงได้เอาขนมมาขายให้กับบรรดาลูกศิษย์อาจารย์ เขาก็ช่วยอุดหนุนกัน เห็นตรงนี้เปิดนานแล้ว เขาสอนให้มีวิชาด้วย มันขึ้นอยู่กับคนศรัทธาด้วย เหมือนเรากินสมุนไพร ถ้าเราศรัทธาของไทย อะไรก็จะดีขึ้น ส่วนอาจารย์เอกมีสมุนไพรด้วยหรือไม่ ไม่ทราบ เพราะไม่เคยได้กิน
“การรักษาเขาจับคลำเหมือนใช้จิต และน้ำล้างตาให้ อีกวันตายุบ จากที่ตาบวมมองเห็นชัดขึ้น จากก่อนรักษาที่ตามัวแล้วเจ็บปวดที่ตา ซึ่งตนไม่มีเวลาไปหาหมอ แต่อาจารย์เอกเขาดูให้ ก็ไม่ได้ไปหาหมอ เพราะหายแล้ว ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการศรัทธาด้วย” นางกนกวรรณ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า วานนี้ (15 พ.ย. 66) ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบอยู่นั้น พบว่าพระประนอม พระลูกวัดแห่งหนึ่งย่านฝั่งธนฯ ได้เดินทางมายังโรงแรมแห่งนี้เพื่อมารอรักษาอาการปวดหลังกับอาจารย์เอก แต่ก็ต้องผิดหวัง เมื่อทราบว่าอาจารย์เอกและกลุ่มลูกศิษย์ไม่อยู่ในวันนี้ พร้อมกับมีเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายลงพื้นที่มาตรวจสอบพฤติกรรมของอาจารย์เอกอีกด้วย
โดยพระประนอม กล่าวว่า ในอดีตที่ผ่านมาเคยมีผู้ได้รับอภิญญามาแล้ว คือแม่ชีบุญเรือน แห่งวัดอาวุธฯ ซึ่งท่านก็มีลูกศิษย์ลูกหาเต็มบ้านเมืองไปหมด ถ้าบอกว่าเป็นเรื่องอภิญญา อาตมาก็เชื่อถือ อย่างอาตมาก็อยากมาทดลองรักษาอาการปวดหลังจากกระดูกข้อที่ 5 มันทรุด ถ้ารักษาได้รักษาหาย อาตมาก็เชื่อ คนทั่วไปไม่มีใครเข้าใจเรื่องอภิญญา แต่อาจารย์เอกท่านเคยบวชเป็นฤาษีบวชพระมาก่อน ซึ่งการจะได้อภิญญามานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อย่างโรคบางโรค หมอโรงพยาบาลธรรมดาไม่มีทางรักษาให้หายได้ อย่างอาตมารักษาตัวมา 20 ปี ไม่เห็นหาย จึงตัดสินใจเดินทางมาลองรักษาที่นี่ดู แต่ก็ไม่ทัน
พระประนอม กล่าวอีกว่า อาตมาไม่ได้นัดล่วงหน้ามาก่อน เห็นข่าวออกก็เดินทางมาลองรักษาดูเลย อย่างน้อยก็ได้พิสูจน์ดู เพราะอาการป่วยดังกล่าวทำให้อาตมาไม่สามารถเดินออกบิณฑบาตมานานหลายปีแล้ว ทำไมไม่รักษาศาสตร์แบบนี้เอาไว้ คุณวิเศษแบบนี้ไม่ใช่จะได้กันมาง่ายๆ แล้วถามว่าเขาไปเรียกร้องเงินทองอะไรหรือไม่ เปรียบเทียบกับคนป่วยที่เป็นมะเร็งเดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาล เขาเรียกเงินเป็นแสนเป็นล้านบางคนก็ไม่หายแถมตายด้วยก็มี ทำไมไปคิดว่าคนแบบนี้หลอกลวง ซึ่งถ้าเขาไม่ใช่ของจริง วันหนึ่งเขาก็จะแตกไปเอง ทองยังไงก็เป็นทอง บุคคลที่ได้อภิญญามาจริงๆ แม้แต่การย่นระยะทางก็สามารถทำได้ เรื่องรักษาคนโดยการเหยียบยิ่งเป็นเรื่องง่ายเลย.