เครื่องบินรบของกองทัพเมียนมา ตกระหว่างการต่อสู้กับกองกำลังฝ่ายต่อต้านในรัฐกะยา โดยฝ่ายหลังออกมาอ้างว่า พวกเขาเป็นผู้ยิงเครื่องบินลำนี้จนตก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลทหารของประเทศเมียนมากำลังเผชิญความท้าทายใหญ่หลวงที่สุดในการปกครองของพวกเขา หลังจากกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์และกลุ่มติดอาวุธต่อต้านรัฐบาล ออกมาเคลื่อนไหวสอดประสานกันในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และปะทะกับกองทัพรัฐบาลในหลายพื้นที่

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (11 พ.ย. 2566) เครื่องบินรบลำหนึ่งของกองทัพเมียนมาตกในรัฐกะยา ใกล้กับชายแดนประเทศไทย ระหว่างการต่อสู้กับกองกำลังป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยงแดง (KNDF) ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้ยิงเครื่องบินลำนี้จนตก ขณะที่ นายจอว์ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลบอกกับสื่อว่า เครื่องบินตกเพราะปัญหาทางเทคนิค โดยนักบินดีดตัวออกมาได้อย่างปลอดภัย

ทั้งนี้ สถานการณ์ในประเทศเมียนมาถึงขั้นทำให้ ประธานาธิบดี มินต์ ส่วย ออกมาเตือนเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ประเทศเสี่ยงจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เนื่องจากความล้มเหลวในการรับมือกับการกำเริบของฝ่ายต่อต้านได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าที่เป็นอยู่

การต่อสู้ในรัฐฉาน ทางตะวันออกเฉียงเหนือติดกับชาวแดนจีน ทำให้คนมากกว่า 50,000 คน ต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่น เส้นทางการค้าถูกตัดขาด เมืองหลายแห่งถูกปิดล้อม นับตั้งแต่กองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ 3 กลุ่ม เริ่มการโจมตีต่อต้านรัฐบาลทหารในเดือนตุลาคม โดยที่จีนออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติความเป็นศัตรู

กลุ่มพันธมิตรฝ่ายต่อต้านอ้างว่า พวกเขายึดค่ายทหารได้มากกว่า 100 แห่ง และกำลังเกิดการต่อสู้ขึ้นในหลายเมืองของเขตสะกาย ซึ่งอยู่ตอนกลางของเมียนมา และทางตะวันตกของรัฐฉาน

ด้านนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนเตือนว่า แรงงานต่างชาติหลายร้อยคน รวมถึงชาวเวียดนามและชาวไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ ติดค้างอยู่ตามที่ต่างๆ เพราะการต่อสู้ ขณะที่กระทรวงต่างประเทศของไทยระบุในวันเสาร์ว่า คนไทยราว 200 คนกำลังรออพยพจากเมียนมาโดยเร็วที่สุดเมื่อสถานการณ์เอื้ออำนวย

ที่มา : cna