ข่าวทั่วไป

รับ 3 แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เขมรจับให้ อ้างอยู่แบงก์ หลอกคนไทย

ชุดสืบนครบาล-ตม.สุรินทร์ รับ ตัว 3 คนไทยสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาดำเนินคดีที่ประเทศไทย หลังตำรวจเขมรเปิดปฏิบัติการทลายยกแก๊งใน จ.อุดรมีชัย เผยทั้งหมดได้เงินเดือนคนละ 2 หมื่นบาท ทำหน้าที่ออกอุบายลวงเหยื่ออ้างตัวเป็นพนักงานเร่งรัดหนี้สินของธนาคารกสิกรไทย ได้ส่วนแบ่ง 6 เปอร์เซ็นต์จากยอดเงินที่เหยื่อหลงเชื่อโอนมาคุมตัว

3 สมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์เขมรมาดำเนินคดีในไทย เปิดเผยเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 พ.ย. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ในฐานะหัวหน้าตำรวจ ศปอส.ตร. ชุดที่ 5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. ในฐานะหัวหน้าตำรวจ ศปอส.ตร.ชุดที่ 5 พ.ต.อ.ธนวัฒน์ พูลสวัสดิ์ ผกก.ตม.สุรินทร์ นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนนครบาลและ ตม.สุรินทร์ ร่วมกันควบคุมตัวนายภานุ มาลัย อายุ 23 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 615/2566 นายกฤษณะ ศรียงค์ อายุ 20 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 621/2566 และนายพงศกร ศรียงค์ อายุ 28 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 622/2566 ฐานร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ซ่องโจร ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและร่วมกันฟอกเงิน

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 พ.ย. ชุดจับกุมรับการประสานจากตำรวจกัมพูชา หลังเปิดปฏิบัติการทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ที่ตึกคอลเซ็นเตอร์ ตรงข้ามด่านช่องจอม จ.สุรินทร์ ก่อนส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนมาที่จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อดำเนินคดีที่ประเทศ ไทย สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คนรับสารภาพว่าเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์จริง ได้เงินเดือน เดือนละ 2 หมื่นบาท ก่อนหน้าที่จะไปทำงานเป็นพนักงานแก็งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศเพื่อนบ้านนั้น ทั้งหมดตกงาน เข้าไปหางานในเพจและสื่อโซเชียล สมัครเข้าทำงานเป็นแอดมินตอบคำถามลูกค้า

ต่อมาเดือน ม.ค.- ก.พ.66 รับการติดต่อจากนายทุนให้นั่งรถไปที่ บขส.จ.สระแก้ว มีรถรับจ้างมารับต่อไปส่งยังชายแดนไทย-กัมพูชา จากนั้นมีคนเขมรพาข้ามชายแดนผ่านช่องทางธรรมชาติและขึ้นรถตู้เดินทางมายัง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ทำงานเป็นพนักงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์สาย 1 อ้างตัวเป็นพนักงานเร่งรัดหนี้สินของธนาคารกสิกรไทย ออกอุบายสอบถามเหยื่อว่า เลขท้ายบัตรเครดิตสี่หลักนี้เป็นของผู้เสียหายหรือไม่ เมื่อผู้เสียหายตอบว่าไม่ใช่ จะแจ้งกับผู้เสียหายว่าข้อมูลของท่านอาจรั่วไหล แนะนำไปแจ้งความที่ สภ.เมืองตาก โดยให้กดปุ่มสี่เหลี่ยม (#) 2 ครั้ง ระบบจะโอนสายอัตโนมัติไปยังกลุ่มสาย 2 อ้างตัวเป็นตำรวจ สภ.เมืองตาก (ยศ ส.ต.ต. ถึง ด.ต.)สอบถามผู้เสียหายพร้อมข่มขู่ว่าข้อมูลของผู้เสียหายมีคนร้ายนำไปใช้ ทำให้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงินและยาเสพติด ต้องโอนเงินมาตรวจสอบเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ หากผู้เสียหายไม่หลงเชื่อ จะทำทีเดินไปเคาะประตูและให้คุยกับนายตำรวจระดับ ร.ต.อ.ขึ้นไปเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ จากนั้น กลุ่มสาย 3 จะอ้างตัวเป็นนายตำรวจยศ ร.ต.อ. ขึ้นไป หลอกว่าจะดำเนินคดีกับผู้เสียหาย มีการส่งข้อมูลหลอกผู้เสียหายผ่านทางไลน์ อาทิ หมายจับ (ปลอม) หรือบางครั้งใช้วิธีวิดีโอคอลและใช้เทคนิคตัดต่อ สร้างความน่าเชื่อถือว่าเป็นตำรวจจริงๆ สุดท้ายผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปให้ สร้างความเสียหายหลักล้านบาท ส่วนพวกตนจะได้รับส่วนแบ่งร้อยละ 6 จากยอดเงินที่หลอกเหยื่อได้

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยว่า ครั้งนี้สามารถจับกุมตัวสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้เตรียมขยายผลให้ถึงที่สุด ประชาสัมพันธ์หากไม่แน่ใจหรือสงสัยว่าบุคคลจะเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ ให้แจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบหรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดมายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันทีตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เบื้องต้นคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท.2 ดำเนินคดี

Tags
ข่าววันนี้ตม.สุรินทร์ตำรวจกัมพูชาแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เรื่องอื่นๆ แนะนำต้องดู

Back to top button