ข่าวทั่วไป

ลุงพล-ป้าแต๋น ลุ้นคำสั่งศาล ยืนยันบริสุทธิ์ล้านเปอร์เซ็นต์ ไม่ได้ฆ่าน้องชมพู่

ลุงพล ป้าแต๋น พร้อมทีมทนายความตั้งโต๊ะแถลงข่าวกลางดึก ยืนยันบริสุทธิ์ล้านเปอร์เซ็นต์ ไม่ได้ฆ่าน้องชมพู่ รอลุ้นคำสั่งศาลจังหวัดมุกดาหาร

จากคดีมหากาพย์ “น้องชมพู่” เด็กหญิงวัย 3 ขวบ หายออกจากบ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 63 ต่อมาอีก 3 วันไปพบศพที่บนภูเหล็กไฟ เขตอุทยานแห่งชาติภูผายล ห่างจากบ้านน้องชมพู่ราว 2 กม. ตำรวจคาดว่าน้องชมพู่อาจถูกล่อลวงออกมาจากบ้าน เป็นไปได้ว่าหากเป็นเหตุฆาตกรรมผู้ก่อเหตุต้องมีความชำนาญและอาจรู้จักคนในครอบครัวนี้ แต่เชื่อว่าเด็กไม่ได้ พลัดหลงป่า หรือเข้าไปในป่าเพียงคนเดียว น่าจะมีคน นำพาตัวไปที่จุดเกิดเหตุ กระทั่งมีพยานเห็นชายรูปร่างสูงอุ้มน้องชมพู่เข้าป่า ตำรวจรวบรวมหลักฐานออกหมายจับนายไชย์พล หรือลุงพล วิภา และ น.ส.สมพร หรือป้าแต๋น หลาบโพธิ์ สองสามีภรรยา เป็นลุง และป้าน้องชมพู่ กลายเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง

เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อเวลา 22.00 น. คืนวันที่ 30 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา นายไชย์พล วิภา พร้อมนางสมพร หลาบโพธิ์ จำเลยคดีน้องชมพู่ และทีมทนายความ แถลงข่าวร่วมกันหลังมีรายงานว่า ศาลจังหวัดมุกดาหารจะเลื่อนนัดอ่านคำพิพากษา ไปเป็นช่วงปลายเดือนธันวาคม

นายสุรชัย ชินชัย หรือ “ทนายเบิ้ม” หัวหน้าทีมทนายความ บอกว่า วันนัดฟังคำพิพากษา หลังสืบพยานเสร็จทั้ง 2 ฝ่าย เป็นขั้นตอนของศาลกระทำกับจำเลย คือวินิจฉัยและอ่านให้จำเลยฟัง ส่วนจำเลย คือเตรียมตัวเตรียมใจ เพราะคำพิพากษาอาจเป็นได้ทั้งบวกและลบ ต้องพร้อมรับในคำตัดสินของศาล เตรียมหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราวหากผลเป็นลบ ซึ่งทนายก็ให้กำลังใจและอยู่เคียงข้าง เพราะอยู่ด้วยกันมาแต่ต้น เปรียบเป็นหมอ อยู่ใกล้คนป่วย

ส่วนข่าวว่าศาลเลื่อนกระทบหรือไม่ มองว่า ยังไม่ชัดว่าจะเลื่อนจริงตามข่าวหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาหากจะมีการเลื่อน จะไม่ได้บอกก่อน แต่จะบอกต่อหน้าโจทก์และจำเลยในวันที่นัดเลย เพื่อแจ้งเหตุผลต่อหน้าว่าเลื่อนเพราะเหตุผลใด

ส่วนเส้นผมที่พบข้างศพ และในรถลุงพล ลักษณะเหมือนถูกสับนั้น จะหักล้างอย่างไร “ทนายเบิ้ม” บอกว่า เส้นผมดังกล่าวถูกตัดด้วยคมมีดด้านเดียว และมีดด้ามนี้ก็ไม่พบดีเอ็นเอลุงพล นอกจากนี้การค้นพบในรถลุงพล ทีมทนายเห็นว่าการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่มีข้อกังขา ทั้งไม่มีหมายค้น ไม่แจ้งผู้ใหญ่บ้าน ผู้สื่อข่าว แล้วให้บันทึกว่ามีการค้น ตรงข้ามลุงพลรู้หลังถูกฟ้องว่าค้นพบเส้นผมในรถ ซึ่งนี่ก็เป็นข้อหนึ่งที่ใช้ต่อสู้

ด้านนายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” บอกว่าระยะเวลาที่ตกเป็นผู้ต้องหาจนถึงปัจจุบัน ก็รอวันที่ 31 ตุลาคม ว่าศาลตัดสินแบบไหน และส่วนตัวก็ยังหวังว่าพรุ่งนี้จะได้ฟังคำพิพากษา ส่วนหากจะเลื่อนออกไปหรือไม่อย่างไรก็จะรอฟังเหตุผลของศาล โดยยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเองล้านเปอร์เซ็นต์ ว่าตนเองและป้าแต๋นไม่ได้ฆ่าน้อง โดยเหตุการณ์ตอนที่น้องชมพู่หาย ตนเองอยู่กับแม่ของน้องชมพู่ ดังนั้น คนที่ตอบได้ดีที่สุดคือพี่สาวของน้องเพราะอยู่กับน้องเป็นคนสุดท้าย

เมื่อถามว่า หากน้องชมพู่รับรู้ได้ อยากฝากอะไรถึงน้องหรือไม่ “ลุงพล” บอกว่า ชมพู่เป็นหลานคนที่ 5 ถ้าฝากถึงน้องได้ หากยังอยู่น่าจะโตแล้ว ในเครือญาติก็ดูแลกัน ถ้าเกิดเขาโต ก็คงต้องดูแลต่อไปเหมือนที่พ่อแม่ดูแล ยืนยัน ลุงป้าจะทำอย่างดีที่สุดในการติดตามหาตัวผู้ที่กระทำความผิด ถ้ามันมีจริงก็อยากให้น้องชมพู่ ได้รับความยุติธรรมตรงนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. วันที่ 31 ตุลาคม 2566 นายไชย์พล หรือลุงพล วิภา และ น.ส.สมพร หรือป้าแต๋น หลาบโพธิ์ สองสามีภรรยา เดินทางมาถึงศาลจังหวัดมุกดาหารแล้ว

Tags
คดีน้องชมพู่น้องชมพู่ปิดดีน้องชมพู่ลุงพล ป้าแต๋น

เรื่องอื่นๆ แนะนำต้องดู

Back to top button