กลุ่มฮามาสเจรจาขอน้ำมัน แลกปล่อยตัวประกัน อิสราเอลยอมแต่ให้ปล่อยหมด
กลุ่มฮามาสปล่อยตัว 2 หญิงชราชาวอิสราเอล หลังกาตาร์และอียิปต์เป็นตัวกลางช่วยเจรจา ขณะที่อิสราเอล ขอให้ปล่อยตัวประกัน 2 สัญชาติอีก 50 คน แต่กลุ่มฮามาส มีข้อแลกเปลี่ยน ขอลำเลียงน้ำมันเข้าฉนวนกาซา ถูกอิสราเอลปฏิเสธหวั่นนำน้ำมันไปใช้ทางทหาร แต่จะยอมส่งให้ถึงที่หากกลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันทั้งหมด ขณะที่การสู้รบยังรุนแรงต่อเนื่อง สลดใจเหยื่อสงครามมีเด็กเสียชีวิตกว่า 2 พันศพ แรงงานไทยกลับบ้านอีก 2 เที่ยวบิน นายกฯสุดสะเทือนใจหลังแรงงานไทยในอิสราเอลบางส่วนยอมเสี่ยงชีวิตอยู่ต่อเพื่อรายได้ เฉ่งนายจ้างอิสราเอลปั่นหัวแรงงานไทย ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ออกแถลงการณ์ซาบซึ้งใจแรงงานไทยขออยู่ทำงานอยู่ท่ามกลางความยากลำบากและความไม่ปลอดภัยของการสู้รบ เผยสร้างที่หลบภัยเพิ่มทั่วประเทศ ชี้แจงเหตุนายจ้างจ่ายเงินเดือนล่าช้าและเตรียมขยายวีซ่าแรงงานไทยเพิ่ม
รัฐบาลเร่งอพยพแรงงานไทยในอิสราเอลให้ได้กลับประเทศโดยเร็ว เนื่องจากสถานการณ์การสู้รบยังไม่มีความปลอดภัยมากเพียงพอ ขณะเดียวกันได้เร่งขอความช่วยเหลือแรงงานไทยที่ถูกจับ เป็นตัวประกัน ภายหลังมีข่าวว่ากลุ่มฮามาสได้ปล่อยตัวประกันที่เป็นหญิงชราชาวอิสราเอลออกมา 2 คนและยังเตรียมปล่อยตัวประกันอีก 50 คน
ฮามาสปล่อย 2 หญิงตัวประกัน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 ต.ค. คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศหรือไอซีอาร์ซี แถลงว่ากลุ่มฮามาสได้ปล่อยตัวนางนูริต คูเปอร์ วัย 79 ปี และนางโยเชเว็ด ลิฟชิตซ์ วัย 85 ปี สองหญิงชราชาวอิสราเอล ที่ถูกกลุ่มฮามาสจับตัวจากนิคมเกษตรเนอร์ ออซ ใกล้กับฉนวนกาซา ทางตอนใต้ของอิสราเอลตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. ไอซีอาร์ซีได้พาหญิงชราทั้งสองคน เดินทางผ่านด่านข้ามพรมแดนราฟาห์ ชายแดนอียิปต์ ทางใต้ของฉนวนกาซาและได้รับการรักษาพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 23 ต.ค. ความสำเร็จในการปล่อยตัวประกันครั้งนี้ เป็นผลจากการเจรจาที่มีรัฐบาลกาตาร์และรัฐบาลอียิปต์เป็นตัวกลางช่วยเจรจา ขณะที่นายอมิรัม คูเปอร์ สามีของนางคูเปอร์ วัย 85 ปีและนายโอเด็ด ลิฟชิตซ์ สามีของนางลิฟชิตซ์ วัย 83 ปี ยังถูกจับกุมตัวอยู่ในฉนวนกาซาโดยกลุ่มฮามาส
ร้องขอน้ำมันแลกปล่อยอีก 50 คน
วันเดียวกัน สำนักข่าวไทม์ส ออฟ อิสราเอล รายงานอ้าง นสพ.วอลล์สตรีทเจอร์นัลของสหรัฐฯว่า อิสราเอลกำลังเจรจากับฮามาส เพื่อปล่อยตัวประกันเพิ่ม 50 คน มีอียิปต์และกาตาร์เป็นตัวกลาง แต่การเจรจาอาจไม่สำเร็จ เนื่องจากกลุ่มฮามาสมีข้อแลกเปลี่ยนว่าทางการอิสราเอลต้องอนุญาตให้มีการลำเลียงน้ำมันเข้าสู่ฉนวนกาซาแต่อิสราเอลปฏิเสธ เชื่อว่ากลุ่มฮามาสจะนำน้ำมันไปใช้ทางการทหาร พร้อมระบุว่าจะส่งน้ำมันไปที่ฉนวนกาซา หากกลุ่มฮามาสยอมปล่อยตัวประกันทั้งหมดที่มีประมาณ 220 คน
สองฝ่ายยังเปิดศึกสู้รบรุนแรง
สำหรับสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสยังคงตึงเครียด แม้มีการเจรจาและปล่อยตัวประกันเพิ่มขึ้นก็ตาม สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า พล.ร.ต.แดเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอล (IDF) ระบุวันเดียวกันนี้ว่า อิสราเอลจู่โจมฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาสมากกว่า 400 จุด ใน 24 ชม. ยืนยันว่า กองทัพมีความพร้อมในการยกระดับการสู้รบ เพียงแต่รอคำสั่งจากทางการเท่านั้น ทั้งนี้ กองทัพอิสราเอลยังคงโจมตีในฉนวนกาซาต่อ รวมถึงมีการโจมตีทางอากาศในเลบานอน เนื่องจากกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ที่รัฐบาลอิหร่านให้การสนับสนุน ประจำการอยู่ที่ภาคเหนือของอิสราเอล บุกโจมตีหอเฝ้าระวังของอิสราเอลทางใต้ของชายแดนเลบานอน ทำให้มีการอพยพประชาชนออกจากชายแดนอิสราเอล-เลบานอน นายไอแซค เฮอร์ซอก ประธานาธิบดีอิสราเอล แถลงว่า การบุกจู่โจมของกลุ่มฮามาสเป็นเรื่องที่โหดร้ายที่สุด อิสราเอลมีเป้าหมายการต่อสู้กับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ไม่ใช่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ พร้อมย้ำชัดว่าหากกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยังไม่หยุดดึงอิสราเอลเข้าร่วมสงคราม เลบานอนจะต้องรับผิดชอบ
สลดใจเด็กตายกว่า 2 พันศพ
ด้านสำนักข่าวต่างประเทศรายงานอ้างกระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ว่า การโจมตีทางอากาศของกองทัพอิสราเอลในฉนวนกาซา ได้คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์อีก 704 ศพ ภายใน 24 ชม. ทำให้ตั้งแต่เกิดการสู้รบระหว่างกองทัพอิสราเอลกับกองกำลังติดอาวุธปาเลสไตน์กลุ่มฮามาสที่เริ่มขึ้นเมื่อ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตในฉนวนกาซาอย่างน้อย 5,791 ศพ ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 2,360 ศพ
ทูตยิวรับตรวจสอบนายจ้างเพิ่มเงิน
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเช้าวันที่ 24 ต.ค.นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอลว่า ยังเป็นห่วงอยู่เหมือนเดิม เมื่อวันที่ 23 ต.ค.ได้โทรศัพท์พูดคุยกับเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยไปแล้ว จากปัญหาที่มีการเพิ่มเงินเป็นแรงจูงใจให้แรงงานไทยอยู่ทำงานต่อ พูดแรงในเชิงบอกว่า เอาเงินมาล่อ เรื่องแบบนี้ไม่ได้ คิดว่ามันไม่ถูกต้อง เขาบอกว่าไม่ทราบเรื่องเลย แต่จะไปสืบทราบและแจ้งให้รับทราบโดยเร็ว เรื่องการเลื่อนจ่ายเงินเดือนแรงงานไปวันที่ 10 พ.ย. เขาบอกว่าไม่ทราบเรื่อง แต่ตนยืนยันไปและพูดเสียงหนักแน่นว่าต้องดูให้เรา เมื่อถามว่ามีรายงานว่าจะมีการปล่อยตัวประกัน 50 คน ในส่วนนี้มีคนไทยด้วยหรือไม่นายเศรษฐากล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่อง ขอไปติดตามเรื่องนี้ก่อน
สะเทือนใจแรงงานขอทำงานต่อ
ต่อมาเวลา 10.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์หลังการประชุม ครม. ว่า มี 2 เรื่องหลักใหญ่ที่แจ้งในที่ประชุม ครม. คือเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจ นโยบายการท่องเที่ยวและอีกหลายนโยบาย แต่เหนือสิ่งอื่นใดเรื่องที่สำคัญที่สุด คือเหตุการณ์ที่อิสราเอล ปัญหาที่เราเผชิญอยู่ในเรื่องแรงงานไทย บอกตรงๆเป็นเรื่องที่ทำให้สะเทือนใจมากเป็นเหตุว่าทำไมรัฐบาลเราถึงต้องกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการขยายตัวเร็วที่สุด เพื่อซ่อมและสร้างอนาคตให้ประชาชน ลองคิดดูแรงงาน 2-3 หมื่นคนที่อยู่ต่างแดนต้องเสี่ยงชีวิต พอมีคนเอาเงินเข้ามาล่อก็จะอยู่ต่อเพื่อเงินหลักหมื่นหลักแสน ถ้าเกิดเขาถามกลับมาว่า นายกฯไม่เข้าใจหรอกว่าการที่มีคนเอาเงินมาให้ 5 หมื่นหรือ 1 แสนบาทให้อยู่ต่อ มันมีความสำคัญกับพวกเขาขนาดไหน
ไม่อยากให้เอาชีวิตเสี่ยงเพื่อเงิน
“เรื่องนี้ผมตระหนักดี ฉะนั้นเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่สำคัญสุด ที่จะทำให้ประชาชนนับหมื่นคนที่ต้องเสี่ยงชีวิตอยู่ เพื่อที่จะนำเงินมาช่วยคนหลักแสนหรืออาจจะหลักล้านได้ เป็นห่วงโซ่ที่ต้องพึ่งการดูแลของพวกเขา เป็นเรื่องที่น่าสะเทือนใจมาก จริงๆแล้วนโยบายการเงินการคลังที่ดี ไม่ใช่แค่รักษาวินัยการเงินอย่างเดียว แต่ต้องตอบสนองความต้องการของประชาชน ยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดี ไม่ใช่ต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงเพื่อให้ได้เงิน ตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญที่สุด” นายเศรษฐากล่าว
สั่งดูแลผลตอบแทนให้ดีขึ้น
นายเศรษฐากล่าวอีกว่า เรื่องนี้มีการพูดคุยและสั่งการ รมว.แรงงาน และกระทรวงอื่นๆด้วย หากเขากลับมาแล้วต้องช่วยดูแลตรงนี้ให้ดี เมื่อถามว่าจะมีมาตรการอะไรกระตุ้นแรงงานไทยที่กลับมาหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า สั่งการไปยังรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องแล้ว ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตร และสหกรณ์ จะช่วยดูแรงงานภาคการเกษตรที่กลับมาจากอิสราเอลเป็นแรงงานที่มีคุณภาพ ต้องดูเรื่องผลตอบแทนให้ดีขึ้น ส่วนความคืบหน้า ผู้บาดเจ็บคนเสียชีวิตยังเท่าเดิมอยู่ การที่เอาคนกลับเข้ามาได้วันหนึ่ง 600-800 คน ยังเป็นไปได้อยู่ มีผู้แสดงเจตจำนงจะกลับมามากขึ้น ขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยกันเสนอข่าวให้กับแรงงานและญาติพี่น้องทั้งหลาย บอกให้กลับมาเถอะไม่คุ้มที่จะเสี่ยงชีวิตอยู่ เมื่อถามว่า เรื่องข่าวที่จะมีการปล่อยตัวประกัน ได้รับรายงานจากฝ่ายความมั่นคงเพิ่มเติมหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ยังเรายังไม่ทราบชะตากรรม 19 ชีวิต เป็นอย่างไรบ้าง
ตัวประกันคนไทยอาจถูกปล่อยมา
เวลา 11.00 น. นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงการช่วยเหลือแรงงานไทยที่ถูกจับ เป็นตัวประกันว่า ได้รับแจ้งมาว่ามีคนเข้าไปพูดคุยกับสายที่สามารถพูดคุยได้กับกลุ่มฮามาสอยู่ในช่วงการเจรจา มีคนที่ถูกจับเป็นตัวประกันประมาณ 200 คน เป็นคนไทย 19 คน เรามีความหวังว่าเขาน่าจะปล่อยตัวคนไทยเร็ววันนี้ พยายามพูดคุยกับผู้ที่จะประสานงานให้เร่งดำเนินการปล่อยตัวคนไทยให้เร็วที่สุด ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ระบุว่าฮามาสจะปล่อยตัวประกัน 50 คน มีคนไทยในนั้นด้วยหรือไม่ นายปานปรีย์กล่าวว่า เท่าที่พูดคุยมาน่าจะมี ได้ประสานกับฝั่งฮามาสให้ดูแลตัวประกันไทยให้ปลอดภัยอย่าให้ไปอยู่ในพื้นที่สู้รบ ส่วนการพิสูจน์อัตลักษณ์แรงงานไทยที่เสียชีวิตเนื่องจากศพแรงงานไทยเริ่มเปลี่ยนสภาพ ต้องพิสูจน์ด้วยการตรวจดีเอ็นเอ ขณะนี้กำลังดำเนินการ ขอดีเอ็นเอจากญาติผู้เสียชีวิต ส่งไปพิสูจน์อัตลักษณ์กับทางอิสราเอลและยังไม่ได้รับรายงานว่าจะมีการส่งผู้เสียชีวิตกลับมาเพิ่มเติม
ออกแถลงการณ์ซึ้งใจแรงงานไทย
ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ออกแถลงการณ์ เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ว่า การสู้รบระหว่างกองทัพอิสราเอลกับกองกำลังติดอาวุธ ปาเลสไตน์กลุ่มฮามาสที่เกิดขึ้นตั้งแต่ 7 ต.ค. ส่งผลให้แรงงานไทยเสียชีวิต 31 ศพ บาดเจ็บ 18 คน ถูกจับเป็นตัวประกัน 19 คน นางออร์นา ซากีฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศ ไทย ซาบซึ้งอย่างยิ่งต่อความตั้งใจของแรงงานไทย ที่ประสงค์ทำงานต่อในอิสราเอล ท่ามกลางความยากลำบากจากเหตุดังกล่าวที่ทำให้มีแรงงานไทยกว่า 3,000 คน ตัดสินใจเดินทางออกจากประเทศ แต่กระนั้น ยังมีแรงงานไทยประมาณ 5,000 คน ประสงค์ทำงานต่อ
สร้างที่หลบภัยทั่วอีก 430 แห่ง
ในแถลงการณ์ระบุด้วยว่า กระทรวงเกษตรอิสราเอลได้สร้างที่หลบภัยบริเวณพื้นที่การเกษตรเพิ่มอีก 430 แห่งทั่วประเทศ อยู่ในบริเวณที่มีแรงงานอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ ฟาร์มโคนม อาคารบรรจุผลิตผลการเกษตรจากเดิมที่มีอยู่ 600 แห่งกระจายอยู่ทางภาคใต้ของฉนวนกาซาและเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆเพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่แรงงาน ระหว่างทำงานอีกด้วย ได้ประสานงานกับนายจ้างทุกคน แนะนำให้นายจ้างจ่ายเงินเดือนแก่แรงงานในวันที่ 10 ของทุกเดือน ส่วนข้อสงสัยเรื่องการจ่ายเงินล่าช้า ในแถลงการณ์ระบุว่าอาจเป็นเพราะร้องขอเงินชดเชยก่อนกำหนด รวมถึงจัดสรรงบประมาณราว 20 ล้านเช็กเกิล หรือราว 180 ล้านบาท เพื่อชดเชยแรงงานต่างชาติและให้เงินช่วยเหลือพิเศษรายเดือน ให้กับผู้ที่ยังทำงานอยู่ในบริเวณฉนวนกาซาจนถึงสิ้นปี รวมถึงมีมาตรการต่อวีซ่าการทำงานของแรงงานไทยออกไปเป็นปีที่ 6 และจะพิจารณาขยายเพิ่มเติม พร้อมยืนยันยินดีต้อนรับแรงงานไทย หากประสงค์กลับมาทำงานในอิสราเอลเมื่อเหตุการณ์สงบลง
เร่งอพยพคนงานไทยกลับมากที่สุด
ที่กระทรวงแรงงาน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร เป็นประธานประชุมคณะทำงานศูนย์ช่วยเหลือแรงงาน และติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานทูตไทยในกรุงเทลอาวีฟ อิสราเอล และกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ ถึงการอพยพแรงงานไทยในอิสราเอลกลับประเทศให้ได้ไวที่สุด และมีมาตรการรองรับคนเดินทาง กลับมาให้ได้สิทธิประโยชน์มากที่สุด ตามข้อสั่งการ ของนายกรัฐมนตรี ที่ให้เร่งอพยพกลับให้มากที่สุด อย่าหวังเงินจูงใจจากนายจ้าง เนื่องจากสถานการณ์ส่อเค้าจะมีความรุนแรงมากขึ้น หากไม่สามารถอพยพทางอากาศ ต้องอพยพทางภาคพื้นจะมีความลำบาก มากขึ้น
เช้า 25 ต.ค. กลับมาอีกกว่า 700 คน
นางปลิดา ร่วมคำ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอาบูดาบี กล่าวว่า ศูนย์อพยพที่เมืองฟูไจราห์ อยู่ห่าง จากดูไบ 123 กิโลเมตร การอพยพจะรับคนจากกรุงเทลอาวีฟ อิสราเอล มาที่ฟูไจราห์โดยสายการบิน Spice Jet จากนั้นจะเปลี่ยนเครื่องมาไทย โดยสายการบินไทยแอร์เวย์ จุคนได้ 280 คน ไลออนแอร์ นกแอร์ แอร์เอเชีย จุคนได้ 180 คน ยังมีเครื่องบินของ ทอ. ชนิด A345 จุได้ 145 คน C130 จุได้ 77 คน เมื่อวันที่ 23 ต.ค. เริ่มต้นไฟลท์แรกจากอิสราเอลมาเปลี่ยนเครื่อง 280 คน เดินทางกลับถึงไทยแล้ว และจะอพยพจากเทลอาวีฟอีก 2 ไฟลท์ คาดถึงไทยเช้ามืดวันที่ 25 ต.ค.
ให้ทูตแรงงานคุยนายจ้างอิสราเอล
นายไพโรจน์กล่าวหลังพูดคุยกับแรงงานไทยจากอิสราเอลที่ทยอยมายื่นเอกสารขอรับเงินสิทธิประโยชน์ ว่า มียื่นคำร้องทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค 819 คน วินิจฉัยส่งจ่ายไปแล้ว 364 คน กว่า 5.4 ล้านบาท สอบถามทุกคนบอกว่า จะไม่กลับไปทำงาน ในอิสราเอลอีก กรณีที่นายจ้างยังไม่ให้กลับเพราะกลัวไม่มีคนทำงาน ได้ให้ทูตแรงงานไปประสานทาง อิสราเอลให้แจ้งนายจ้างปล่อยกลับเพราะชีวิตคนสำคัญ ที่สุด กระทรวงจะหามาตรการจูงใจให้กลับมามากที่สุด สรุปมาตรการทั้งหมดให้ รมว.แรงงาน เช่น อาจมีการ พักชำระหนี้หรือหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำหรือไม่มีดอกเบี้ย เพื่อให้สามารถไปทำงานในประเทศอื่นได้
เฉ่งนายจ้างยิวปั่นหัวแรงงานไทย
ช่วงเย็น เวลา 16.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย มีการ ประชุม สส.เพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว. คลัง กล่าวในที่ประชุมพรรค ถึงเหตุการณ์สู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสอีกครั้งว่า เป็นเครื่องสะท้อนว่า เหตุใดรัฐบาลต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ ในประเทศ ครั้งมโหฬาร เพราะแรงงานไทยเปลี่ยนใจจะไม่กลับไทย แม้ความรุนแรงสถานการณ์เพิ่มขึ้น เพียงเพราะนายจ้างให้เงินเพิ่มอีก 5 หมื่นบาท ที่น่าตกใจกว่านั้น คือ เลื่อนวันออกเงินเดือนเป็นวันที่ 10 พ.ย. หากคิดให้ดีแสดงว่าเงินเดือนจะไม่ออก เพราะอาจมีการใช้ปฏิบัติการภาคพื้นดิน มีการสูญเสียครั้งมโหฬาร ขอฝาก สส.ที่มีแรงงานไทยอาศัยอยู่ในพื้นที่ ให้ไปบอก ญาติพี่น้องว่า เป็นเรื่องน่าเศร้าที่คนนับหมื่นคนต้องเสี่ยงชีวิตดูแลคนเป็นแสนเป็นล้าน ปัญหาดังกล่าวเป็นภาพที่สะท้อนกลับมาว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาเศรษฐกิจ ทุกคนพยายามหาเงินอยู่ต่อเพื่อให้ได้เงิน อีก 5 หมื่นบาท ขณะที่นายจ้างอิสราเอลเอาเปรียบจากความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจของเรา เป็นเรื่องน่าสะเทือนใจ
เรียกคนไทยกลับบ้านหยุดเสี่ยงตาย
นายเศรษฐากล่าวว่า รัฐบาลถึงพยายามเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งลดค่าน้ำ ค่าไฟ พักหนี้เกษตรกร รวมถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต เป็นเรื่องสำคัญ แม้จะมีนักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์หลายคนบอกเรื่องการรักษาวินัยการเงินการคลังเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง แต่มองว่าไม่ใช่เรื่องเดียว กระทรวงต่างประเทศจัดเครื่องบินรับแรงงานไทยได้วันละ 800-1,000 ที่ แต่คนที่กลับมาเริ่มลดน้อยลง นายจ้างอิสราเอลเริ่มปั่นหัวจะได้เงินเพิ่มขึ้นเมื่อดูจากสถานการณ์ สำนักข่าวกรองหรือฝ่ายความมั่นคง ชัดเจนว่าสถานการณ์สู้รบจะรุนแรงมากขึ้นอาจลุกลามไปประเทศข้างเคียง เป็นเรื่องน่าสะเทือนใจ ตนพูดเพื่อให้เกิดการพาดหัว เชื้อเชิญให้คนไทยกลับมาเถอะ เงินจำนวนไหนก็ไม่สามารถทดแทนชีวิตได้
แรงงานไทยกลับมาอีก 2 เที่ยวบิน
ก่อนหน้านี้ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อคืนวันที่ 23 ต.ค. นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรี รมว.แรงงาน นำคณะไปต้อนรับแรงงานไทยที่กลับจากอิสราเอล 2 เที่ยวบิน คือสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 8953 จากสนามบิน Fujairah นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวม 280 คน และสายการบิน El Al Israel Airlines เที่ยวบินที่ LY085 จากอิสราเอล อีก 235 คน
เผยระเบิดลงตูมๆยังให้ทำงาน
นายอนุเทพ ขวัญทอง อายุ 29 ปี ชาวอุดรธานีไปทำงานที่เมืองมะกะหยก ติดกับประเทศเลบานอน เล่าว่า ที่ฟาร์มอยู่ใกล้พื้นที่สงคราม ได้ไปหลบภัยนอนอยู่ในบังเกอร์ 14 วัน เตรียมหม้อหุงข้าว กระทะไฟฟ้าลงไปใช้ทำอาหารกินยังชีพในหลุมด้วย เพราะมีน้ำไฟพร้อม การปะทะกันวันแรกยังทำงานอยู่ในฟาร์มไก่ ได้ยินปืนจากรถถังยิงขึ้นไปบนเขาทางเลบานอน ที่ฟาร์มโดนระเบิดด้วยมีเพื่อนบาดเจ็บ 2 คนและเดินทางกลับมาด้วย ไปทำงานประมาณ 3 ปี ที่ผ่านมามีแค่ยิงจรวดไปมา แต่ครั้งนี้หนักที่สุด เนื่องจากมีการเข้ามายิงคน ตอนที่ยิงกันยังถูกนายจ้างบังคับให้ทำงานแม้จะมีระเบิดลงแต่เขายังให้ทำงาน จนต้องออกจากฟาร์มโดยยังไม่ได้รับเงินเดือนที่ทำและคงไม่กลับไปทำงานอีกแล้ว
อีก 7 ศพแรงงานไทยได้กลับบ้าน
ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศได้อัปเดตสถานะล่าสุดเกี่ยวกับจำนวนคนไทยที่ได้รับผลกระทบในอิสราเอล (สถานะคืนวันที่ 23 ต.ค.2566)ว่ามีผู้เสียชีวิต 30 ราย (จำนวนคงเดิม) มีผู้บาดเจ็บ18ราย (จำนวนคงเดิม) ผู้ที่คาดว่าถูกควบคุมตัวจำนวน19ราย (คงเดิม) นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศยังได้รับแจ้งจาก สอท. ณ กรุงเทลอาวีฟว่า ร่างผู้เสียชีวิตจำนวน 7 ราย จะได้รับการนำกลับประเทศไทยโดยสายการบิน El Al Israel Airlines เที่ยวบินที่ LY083 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วันที่ 26 ต.ค. เวลา 10.35น.
พระร้องขอยุติความรุนแรงสงคราม
เวลา 18.30 น. ที่ห้อง grand one room โรงแรมแรมแบรนดท์ ซอยสุขุมวิท 18 เขตคลองเตย สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย นางนาออร์นา ซากีฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ร่วมกับสมาคมชาวยิวแห่งประเทศไทย นำโดยนายแรบไบ โยเซฟ กันตอร์ หัวหน้าแรบไบแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรม WE STAND WITH ISRAEL ค่ำคืนแห่งความสามัคคีและการเรียกร้องปล่อยตัวประกันทั้งหมด มีชาวยิวในไทยและผู้แทนสถานทูตประเทศต่างๆเข้าร่วมงาน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดของตำรวจ สน.ทองหล่อ และตำรวจสืบสวน บก.น. 5 และ บช.น. เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ก่อนหน้านี้ช่วงเย็นที่สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลฯ กลุ่มสภาประชาชนแห่งชาติสภาประชาชนแห่งโลก พระสมาน ศรีงาม มายื่นหนังสือต่อสถานทูต ขอให้ยุติความรุนแรงของสงครามและอ่านแถลงการณ์ ระบุว่า ขอให้อิสราเอลมีความเมตตา ปรานี อย่าทำลายโรงพยาบาล ทำร้ายคนเจ็บ ทำร้ายเด็ก สตรี และเยาวชน
