ประธานาธิบดีอิบราฮิม ไรซี ของอิหร่านแถลงเรียกร้องให้ชาติมุสลิมตัดสัมพันธ์กับประเทศอิสราเอล พร้อมขับไล่ทูตออกจากประเทศ รวมทั้งปิดสถานทูต เพื่อตอบโต้กรณีเหตุโจมตี รพ.ในกาซา ท่ามกลางข้อถกเถียงว่าเป็นฝีมือของฝ่ายใดกันแน่
ประธานาธิบดีอิบราฮิม ไรซี ของอิหร่าน แถลงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ในขณะที่การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสดำเนินมาถึงวันที่ 11 โดยขอเรียกร้องชาวอิหร่านทุกคน ชุมชนชาวมุสลิมทั่วโลก และผู้ที่ต้องการเสรีภาพทุกคนให้เร่งตัดสัมพันธ์กับอิสราเอลทันที พร้อมให้ขับไล่ทูตอิสราเอลและปิดสถานทูตของอิสราเอลด้วย
นายไรซีได้กล่าวต่อผู้ชุมนุมต่อต้านอิสราเอลที่ชุมนุมอยู่ทั่วกรุงเตหะราน เพื่อที่จะประณามการโจมตีโรงพยาบาลในกาซาที่ทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องล้มตายจำนวนมาก โดยระบุว่า ชาวมุสลิมทั่วโลก ต่างต้องการให้อิสราเอลยุติการโจมตีในพื้นที่ของพลเรือนโดยเร็วที่สุด โดยอิหร่านได้ประกาศวันไว้อาลัยให้แก่เหยื่อในโรงพยาบาลกาซาในวันพุธนี้ตามเวลาในท้องถิ่น
ความเคลื่อนไหวของผู้นำอิหร่านครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางความไม่ชัดเจนของผู้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีโรงพยาบาลในกาซา หลังทางการกาซากล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล ในขณะที่กองทัพอิสราเอลเองก็ออกมาโชว์หลักฐานต่างๆ ทั้งคลิปวิดีโอ คลิปเสียง และข้อมูลการวิเคราะห์ต่างๆ เพื่อยืนยันว่าไม่ได้เป็นฝ่ายโจมตีโรงพยาบาล แต่เป็นความผิดพลาดฝ่ายฮามาสที่ยิงจรวจพลาดทำให้มาตกลงในโรงพยาบาลดังกล่าว แต่กลุ่มฮามาสก็ยังคงออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหานี้
นับจนถึงเวลานี้ กองทัพอิสราเอลยังคงโจมตีทางอากาศใส่ฉนวนกาซาอย่างหนัก รวมทั้งปิดกั้นการลำเลียงอาหาร น้ำ เชื้อเพลิงและไฟฟ้าเข้าไปในพื้นที่ โดยยังคงคำสั่งให้พลเรือนออกจากพื้นที่ทางตอนเหนือ ก่อนที่จะมีการรุกคืบโจมตีภาคพื้นดินต่อไป ซึ่งนับตั้งแต่กลุ่มฮามาสเริ่มบุกโจมตีเข้ามาในกาซาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม จนอิสราเอลตอบโต้กลับอย่างหนักหน่วง ทางการกาซาแถลงว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 2,800 ศพ และบาดเจ็บอีกมากกว่า 11,000 คน ขณะที่ฝ่ายอิสราเอลมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,400 ศพ และมีตัวประกัน รวมถึงเด็กถูกกลุ่มฮามาสจับไปเป็นตัวประกันอย่างน้อย 199 คน.
ที่มา : เอพี
