สหรัฐฯ วีโต ขวางการผ่านร่างมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งประชาชาติ ซึ่งจะประณามเหตุความรุนแรงระหว่างอิสราเอลกับฮามาส และเรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันพุธที่ 18 ต.ค. 2566 สหรัฐฯ ใช้สิทธิ์ วีโต (Veto) ขวางคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ไม่ให้ผ่านร่างมติ ซึ่งมีข้อความประณามเหตุรุนแรงทุกรูปแบบ รวมทั้งเรียกร้องให้อิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธ ฮามาส ในฉนวนกาซา หยุดยิงเพื่อมนุษยธรรม ขอให้ปล่อยตัวประกัน และเปิดทางส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่ฉนวนกาซา
การผ่านมติดังกล่าวซึ่งร่างโดยบราซิล ล่าช้ามาแล้วหลายวัน ในขณะที่สหรัฐฯ พยายามเป็นตัวกลางเจรจากับอิสราเอลเพื่อเปิดทางส่งความช่วยเหลือเข้าสู่กาซา จนกระทั่งในวันพุธ ชาติสมาชิก UNSC 12 จาก 15 ประเทศ จะโหวตผ่านมติ ขณะที่รัสเซีย กับสหราชอาณาจักร งดออกเสียง อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ซึ่งเป็น 1 ใน 5 สมาชิกถาวรสิทธิ์ วีโต ขวางการผ่านมติ
นางลินดา โธมัส-กรีนฟีลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ กล่าวในที่ประชุม UNSC หลังการโหวตว่า “เราอยู่ในพื้นที่และกำลังทำงานด้านการทูตอย่างหนัก” “เราเชื่อว่าเราต้องปล่อยให้กระบวนการทางการทูตนั้นดำเนินต่อไปจนสำเร็จ”
“ใช่ มติเป็นสิ่งสำคัญ และใช่ คณะมนตรีนี้ต้องส่งเสียงออกมา แต่การกระทำที่เราทำต้องมาจากข้อเท็จจริงในพื้นที่ และสนับสนุนความพยายามทางการทูตโดยตรง สิ่งนั้นจะช่วยชีวิตมากมาย คณะมนตรีฯ จำเป็นต้องทำความเข้าใจให้ถูกต้อง” นางโธมัส-กรีนฟีลด์ กล่าว
ด้านนาย วาสซิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ ออกมาโจมตีสหรัฐฯ ทันที ระบุว่า “เราได้เป็นสักขีพยานอีกครั้งถึงความเสแสร้ง และ 2 มาตรฐานของเพื่อนร่วมงานชาวอเมริกันของเรา”
ส่วนนาย จาง จวิ้น เอกอัครราชทูตจีนประจำสหประชาชาติ ก็กล่าวหาสหรัฐฯ ว่า ทำให้สมาชิก UNSC หลงเชื่อว่า ร่างมติดังกล่าวจะผ่านความเห็นชอบได้ ด้วยการไม่ยอมแสดงความเห็นหรือแสดงความคัดค้านใดๆ เลยระหว่างการเจรจา “ผลลัพธ์สุดท้ายของการโหวตเป็นสิ่งที่แทบไม่น่าเชื่อ”
อนึ่ง ร่างมติดังกล่าวยังเรียกร้องให้อิสราเอล ถอนคำสั่งให้พลเมืองและเจ้าหน้าที่สหประชาชาติในฉนวนกาซาอพยลงใต้ โดยไม่ระบุชื่ออิสราเอล และประณามการโจมตีก่อการร้ายของกลุ่มฮามาส
อย่างไรก็ตาม นางโธมัส-กรีนฟีลด์ ระบุว่า สหรัฐฯ ผิดหวังที่ร่างมติดังกล่าวไม่ระบุถึงสิทธิ์ของอิสราเอลในการป้องกันตนเอง และเธอกล่าวโทษกลุ่มฮามาสว่า เป็นต้นเหตุทำให้เกิดวิกฤติมนุษยธรรมในกาซา
“เรากำลังทำงานกับอิสราเอล, ประเทศเพื่อนบ้าน, สหประชาชาติ และหุ้นส่วนอื่นๆ เพื่อหาทางแก้วิกฤติมนุษยธรรมในกาซา มันเป็นเรื่องเร่งด่วนที่อาหาร, ยา, น้ำ และเชื้อเพลิงต้องเริ่มถูกส่งเข้าสู่กาซาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” นางโธมัส-กรีนฟีลด์ “ขอพูดให้ชัดเจน เป็นการกระทำของฮามาสเองที่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น วิกฤติด้านมนุษยธรรมร้ายแรงในกาซานี้”
ทั้งนี้ อิสราเอลยังคงปิดล้อมฉนวนกาซาและโจมตีเข้าใส่อย่างหนัก โดยพวกเขาประกาศกร้าวว่าจะทำลายกลุ่มฮามาสให้สิ้นซาก หลังกลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้เปิดฉากโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดเข้าใส่อิสราเอลเมื่อ 7 ต.ค. จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 1,400 ศพ และส่งนักรบติดอาวุธเข้ามาจับตัวประกันไปนับร้อยคน ทั้งชาวอิสราเอลและชาวต่างชาติ
ฝ่ายเจ้าหน้าที่อิสราเอลระบุว่า การโจมตีของฮิสราเอลอย่างต่อเนื่องหลังจากทำให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตมากกว่า 3,000 ศพ บาดเจ็บอีกหลายพันราย
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cna