ไบเดนเผย อิสราเอลตกลงเปิดทางส่งเสบียงเข้าสู่กาซาผ่านประเทศอียิปต์แล้ว ขณะที่กล่าวด้วยว่า เหตุโจมตีโรงพยาบาลในกาซา ไม่น่าใช่ฝีมือกองทัพอิสราเอล
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน เปิดเผยในวันพุธที่ 18 ต.ค. 2566 ว่า อิสราเอลตกลงเปิดทางให้อาหาร, น้ำ และยา จากประเทศอียิปต์เข้าสู่ฉนวนกาซาได้แล้ว โดยการขนส่งจะต้องผ่านการตรวจสอบ และความช่วยเหลือต้องไปถึงมือพลเรือน ไม่ใช่กลุ่มติดอาวุธฮามาส
“ผมเข้าใจ ชาวอเมริกันมากมายเข้าใจ” นายไบเดนกล่าว พร้อมเปรียบเทียบการโจมตีของกลุ่มฮามาสต่ออิสราเอลเมื่อ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา กับเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2544 ในสหรัฐฯ “คุณไม่สามารถมองสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ แล้วไม่กรีดร้องหาความยุติธรรมได้ แต่ขณะที่คุณรู้สึกถึงความโกรธนั้น อย่าถูกมันครอบงำ”
ขณะเดียวกัน ไบเดนส่งคำเตือนไปถึงกลุ่มฮามาสด้วยว่า หากฮามาสเบี่ยงเบนเส้นทาง หรือขโมยความช่วยเหลือนี้ ก็เท่ากับเป็นการแสดงให้เห็นอีกครั้งว่า พวกเขาไม่สนใจสวัสดิภาพของชาวปาเลสไตน์เลย
นอกจากนั้น ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังประกาศว่า สหรัฐฯ จะมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้แก่กาซา และเขตเวสต์แบงก์ ด้วย
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ถูกกลุ่มฮามาสโจมตีเมื่อ 7 ต.ค. จนมีผู้เสียชีวิตเกือบ 1,400 ศพ อิสราเอลก็โจมตีเข้าใส่ฉนวนกาซาอย่างหนัก และปิดล้อมชายแดนตัดเส้นทางส่งอาหาร, เชื้อเพลิง, และน้ำเข้าสู่กาซาทั้งหมด หลายฝ่ายพยายามเจรจาเพื่อเปิดทางส่งเสบียงให้ประชาชน, เจ้าหน้าที่ และโรงพยาบาล ที่กำลังขาดแคลนของใช้จำเป็นและอุปกรณ์ต่างๆ
เหตุโจมตีโรงพยาบาล อัล อาห์ลี อาหรับ (Al Ahli Arab) เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา (17 ต.ค.) คาดกันว่าทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 500 ศพ และซ้ำเติมวิกฤติการขาดแคลนของโรงพยาบาลอย่างหนัก
ขณะเดียวกัน ประเด็นเรื่องผู้รับผิดชอบต่อการโจมตีดังกล่าวก็กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอย่างหนัก เจ้าหน้าที่ในกาซากล่าวโทษอิสราเอลว่าเป็นผู้ลงมือ ขณะที่อิสราเอลปฏิเสธความเกี่ยวข้อง และเผยแพร่คลิปวิดีโอทั้งภาพและเสียง กับข้อมูลอื่นๆ ที่อ้างว่า เป็นหลักฐานชี้ว่า โรงพยาบาลแห่งนี้ถูกโจมตีโดยมิสไซล์ของกลุ่มอิสลามิก ญิฮาด กลุ่มติดอาวุธขนาดใหญ่อีกกลุ่มในกาซา แต่ฝ่ายอิสลามิก ญิฮาด ปฏิเสธ
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ก็แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน ระหว่างการเยือนอิสราเอลในวันพุธ โดยระบุว่า ข้อมูลจากกระทรวงกลาโหมของเขาแสดงให้เห็นว่า เหตุโจมตีดังกล่าวไม่น่าจะเป็นฝีมือกองทัพอิสราเอล “จากที่ผมเห็น ดูเหมือนว่านี่เป็นฝีมือของฝ่ายอื่น ไม่ใช่คุณ” ไบเดนบอกกับ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล
ผู้นำสหรัฐฯ บอกอีกว่า แต่มีคนมากมายข้างนอกนั่น ที่ไม่แน่ใจว่าอะไรคือสาเหตุการระเบิด ซึ่งจุดประกายให้เกิดการประท้วงไปทั่วตะวันออกกลาง
ขณะที่โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติโพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ในเวลาต่อมาว่า การวิเคราะห์ภาพมุมสูง, การดักฟัง และข้อมูลจากแหล่งข่าว แสดงให้เห็นว่า อิสราเอลไม่ได้อยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ แต่ย้ำว่า สหรัฐฯ ยังคงพยายามรวบรวมหลักฐานอื่นๆ ต่อไป
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : ap