เพชรบูรณ์อ่วมฝนถล่มหนัก แม่น้ำป่าสักล้นตลิ่ง ไหลท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ อ.หล่มสัก ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านโอดหนักสุดในรอบ 10 ปี ส่วนถนนบ้านอาข่าผาฮี้ จ.เชียงราย แหล่งท่องเที่ยวดังทรุดตัวยาว 10 เมตร ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก อุบลฯสั่งอพยพด่วนกระสอบทรายกั้นแม่น้ำมูลพังทลายน้ำทะลักท่วม 6 ชุมชน ส่วนสนามกีฬากลางจังหวัดเลยจมบาดาล น้ำทะลักท่วมบ้านเสียหายกว่า 900 หลัง กรมอุตุฯ เตือน 13-14 ต.ค. ทั่วไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง
สถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดยังคงวิกฤติ เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ ส่งผลให้มีน้ำป่าไหลลงสู่แม่น้ำป่าสัก ทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงล้นพนังกั้นน้ำริมตลิ่งไหลทะลักท่วมในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก อ.หล่มสัก เป็นพื้นที่เศรษฐกิจบางจุดระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ประชาชน 5 ชุมชน กว่า 700 หลังคาเรือน เร่งขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง ขณะที่กระแสน้ำไหลแรงประชาชนสัญจรด้วยความยากลำบาก บางจุดต้องปิดถนนเพราะระดับน้ำสูง โดยเฉพาะชุมชนศรีสะอาดได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักน้ำท่วมซ้ำซากเป็นประจำทุกปี เพราะบ้านเรือนอยู่ติดกับแม่น้ำป่าสัก ชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าน้ำท่วมหนักสุดในรอบ 10 ปี ล่าสุดระดับน้ำเริ่มลดลงคาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติในเร็วๆนี้ หากไม่มีฝนตกลงมาซ้ำเติม
จ.เชียงราย ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักส่งผลให้ถนนภายในหมู่บ้านอาข่าผาฮี้ หมู่ 10 ต.โป่งงาม อ.แม่สาย แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังเกิดพังทลายลงเหว กว้าง 4 เมตร ยาว 10 เมตร รถไม่สามารถสัญจรได้ ประชาชนและนักท่องเที่ยวต้องเบี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น ผู้นำชุมชนประสาน อบต.โป่งงาม เข้าตรวจสอบและซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง มีนักท่องเที่ยวเข้ามาพักจำนวนมากเกรงว่าจะเกิดอันตราย
วันเดียวกัน นายจีระชัย ไกรกังวาร นายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ประกาศให้ประชาชนในพื้นที่ 6 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนท่ากอไผ่ ชุมชนหาดสวนสุข ชุมชนหาดสวนยา ชุมชนดีงาม ชุมชนท่าบุ่งมั่ง และชุมชนเกตุแก้ว จำนวนกว่า 400 ครัวเรือน อพยพออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย หลังกระสอบทรายกั้นแม่น้ำมูลยาวกว่า 500 เมตร ถูกกระแสน้ำซัดจนพังทลายน้ำท่วมพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร จนท.พยายามป้องกันแนวกระสอบทรายมา 2 วัน แต่ไม่สามารถต้านทานกระแสน้ำได้ ล่าสุดระดับน้ำในแม่น้ำมูลสูง 8 เมตร เพิ่มขึ้น 8 ซม. สูงกว่าตลิ่ง 1 เมตร คาดว่าจะเพิ่มสูงต่อเนื่อง
ส่วน จ.เลย เกิดน้ำป่าไหลหลากลงอ่างเก็บน้ำเลย อันเนื่องจากพระราชดำริ บ้านสวนปอ ต.แก่งศรีภูมิ อ.ภูหลวง จนล้นสปิลเวย์ลงสู่แม่น้ำเลย ล้นตลิ่งไหลท่วมพื้นที่ อ.เมืองเลย 8 ตำบล 21 หมู่บ้านมีบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายกว่า 900 หลังคาเรือน ขณะเดียวกันน้ำไหลท่วมพื้นที่บ้านนาบอน ต.ชัยพฤกษ์ ชุมชนซอยโรงฆ่าสัตว์ ชุมชนหลังวัดเลยหลง โดยเฉพาะพื้นที่สนามกีฬากลางจังหวัดเลย เลยริเวอร์ไซด์ และสนามเด็กเล่น ระดับน้ำท่วมสูง 1-2 เมตร นายพยุง เหล็กดี นอภ.เมืองเลย นำเจ้าหน้าที่ช่วยประชาชนขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง เร่งเปิดทางน้ำรื้อถอนสิ่งกีดขวาง ปัจจุบันยังมีฝนตกต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
จ.ยโสธร แม่น้ำชีล้นตลิ่งท่วมพื้นที่บ้านปากเป่ง ต.เขื่องคำ อ.เมืองยโสธร ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 60 ซม. นานหลายสัปดาห์ ขณะที่ถนนเข้าออกหมู่บ้านถูกกระแสน้ำกัดเซาะชำรุดหลายจุดประกอบกับมีน้ำท่วมสูง รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้ ประชาชนต้องใช้เรือในการเดินทาง พร้อมนำรถยนต์และรถ จยย.ไปจอดริมถนนทางเข้าออกหมู่บ้านพร้อมตั้งเต็นท์จัดเวรยามเฝ้าเพื่อป้องกันการสูญหาย ส่วน จ.ร้อยเอ็ด จนท.ชุดทีมตอบโต้ภัยพิบัติร้อยเอ็ดเร่งค้นหาศพ ด.ช.อภิชาติ โคตหา อายุ 13 ปี ลงไปเล่นน้ำท่วมกับเพื่อนริมถนนบ้านกุดมะฮง ต.กุดแห่ อ.เลิงนกทา แต่ถูกกระแสน้ำพัดสูญหายไปเมื่อช่วงเย็นวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งพบศพอยู่ใต้กอข้าว บริเวณทุ่งนาที่ถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 2 เมตร ห่างจากจุดเกิดเหตุ 100 เมตร เบื้องต้นญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต
จ.นครราชสีมา ฝนตกหนักติดต่อหลายชั่วโมง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังบริเวณตลาดเซฟวัน อ.เมืองนครราชสีมา และถนนมิตรภาพ บริเวณด้านหน้าตลาดเทิดไท ระดับน้ำท่วมสูง 60-70 ซม. รถขนาดเล็กไม่สามารถขับผ่านได้ ส่งผลทำให้มีรถชะลอตัวและติดสะสมรวมระยะทางกว่า 3 กม. ส่วนเกาะกลางถนนพบรถ จยย.จอดนับสิบคันเนื่องจากเครื่องยนต์ดับและบางคันไม่กล้าฝ่ากระแสน้ำ นอกจากนี้น้ำท่วมถนนมหาดไทย จุดหน้าจวนผู้ว่าฯ และจุดหน้าประตูทางเข้าค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 จนท.เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่แล้ว
จ.ชลบุรี เกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ อ.บางละมุง อาทิ ถนนเลียบทางรถไฟซอยเขาตาโล ไปถึงซอยวัดธรรม ถนนสุขุมวิทปากทาง หน้าสถานีทางหลวงเก่า ถนนสายสามช่วงแยกมุมอร่อย บางจุดท่วมสูงกว่า 50-80 ซม. ทำให้รถยนต์ขนาดเล็กและรถ จยย.ไม่สามารถสัญจรผ่านไปได้ จนท.กิจการพิเศษไปตรวจสอบเปิดไฟสัญญาณเตือน โดยมีรถบางคันขับผ่าเข้าไปดับกลางน้ำหลายคัน จนท.เร่งระบายน้ำใช้เวลาไม่นานมวลน้ำลดลงกลับสู่ภาวะปกติ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือว่า สถานการณ์ยังทรงตัวแต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายมากว่า 1,500 ลบ.ม./วินาที จะเกิดผลกระทบต่อภาคกลาง ส่วนกทม.ต้องช่วยกันระมัดระวัง หากฝนตกเยอะขึ้นและน้ำเหนือยังอยู่ มันก็ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการในพื้นที่ ภาคส่วนต่างๆต้องดูแลคาดว่าจะหมดฤดูฝนในช่วงลอยกระทง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมดีขึ้นสั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดในเขตที่ประสบภัยให้วางแผนหาพื้นที่กักเก็บน้ำไว้ในช่วงหน้าแล้ง ถามว่าหากน้ำเหนือไหลมายังภาคกลางและภาคใต้จะรับมืออย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า ต้องเตรียมตัวป้องกัน ส่วนในเรื่องความช่วยเหลือเรามีความพร้อม
กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ในช่วงวันที่ 13-14 ต.ค.66 ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1 เมตร
